จับแหม่มมะกัน ลอบขนยาไอซ์ 4.3 กก. ซุกกระเป๋าเดินทาง เตรียมบินออกจากไทย

จับแหม่มมะกัน ลอบขนยาไอซ์ 4.3 กก. ซุกกระเป๋าเดินทาง เตรียมบินออกจากไทย

จับสาวชาวอเมริกัน คาสนามบินภูเก็ต หลังซุกยาไอซ์ หนัก 4.3 กก. ในกระเป๋าเดินทาง เตรียมบินไปสิงคโปร์ หากหลุดไปได้จะมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของ น.ส.เมลบา เจอรัลดีน ชาร์ป อายุ 64 ปี สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้โดยสารสายการบินสกู๊ต (Scoot Airlines) เที่ยวบินที่ TR 653 เดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตไปยังท่าอากาศยานนานาชาติชางงี สาธารณรัฐสิงคโปร์ และจะต่อเครื่องไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเจจู ประเทศเกาหลีใต้ 

จากการตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวขุ่น หุ้มด้วยพลาสติกใส กระดาษสีน้ำตาลและกระดาษคาร์บอนพันด้วยเทปสีน้ำตาลทับอีกชั้น จำนวน 4 ชิ้น น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 4,300 กรัม หรือ 4.3 กก. บรรจุอยู่ภายในชุดผ้าปูที่นอน โดยของกลางดังกล่าวบรรจุอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางทรงอ่อน มีล้อลากสีดำ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปขยายผลเพิ่มเติมที่ สภ.สาคู

ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว แนวทางการสืบสวนพบว่าจะมีหญิงชาวต่างชาติลักลอบนำยาไอซ์เป็นจำนวนมากออกจากประเทศไทย โดยใช้ช่องทางผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตไปยังท่าอากาศยานในต่างประเทศ โดยจะเดินทางมาในช่วงค่ำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจึงมีการตรวจเข้มกระเป๋าเดินทางผ่านเครื่องสแกนกระเป๋า

กระทั่งพบหญิงสาวชาวต่างชาติรูปพรรณตรงตามข้อมูล บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ช่องขึ้นเครื่องที่ 81 เจ้าหน้าที่จึงเข้าเชิญตัวไปยังห้องสอบสวนท่าอากาศยานภูเก็ต เนื่องจากพบสิ่งผิดปกติในกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้ท้องเครื่อง เพื่อเปิดตรวจค้นต่อหน้าเจ้าของกระเป๋า

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำวัตถุที่พบตรวจสอบด้วยน้ำยาเคมี ปรากฏว่าวัตถุดังกล่าวเป็นเมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จึงแจ้งข้อหาพยายามนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ถ้ายาไอซ์จำนวนดังกล่าวสามารถเล็ดลอดออกจากประเทศไทยไปยังประเทศที่ 3 ได้จะมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท.

ที่มา ไทยรัฐ

ผู้นำเสนอข่าว

yoko

Written by:

3,860 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *