สาวอายุไม่ถึง 30 ป่วยมะเร็ง ผลตรวจในร่างกายเต็มไปด้วย “พลาสติก” สะสมจากการใช้ชีวิต

สาวอายุไม่ถึง 30 ป่วยมะเร็ง ผลตรวจในร่างกายเต็มไปด้วย “พลาสติก” สะสมจากการใช้ชีวิต

สาวอายุไม่ถึง 30 ป่วยมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ผลตรวจในร่างกายมีแต่ “ไมโครพลาสติก” จากการใช้ชีวิต

ดร.หลิว โปเริน (Liu Boren) เป็นแพทย์ด้านโภชนาการจากไต้หวัน เตือนว่า มีสิ่งของรอบตัวเราจำนวนมากที่อาจปล่อยสารพลาสติกและไมโครพลาสติกออกมาเมื่อใช้งาน โดยเฉพาะในกระบวนการรับประทานและปรุงอาหาร เขายกตัวอย่างกรณีผู้ป่วยหญิงวัยเกือบ 30 ปีที่ตรวจพบมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้ภาชนะที่ปล่อยไมโครพลาสติกและสารพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไป

หญิงสาวรายนี้มาพบแพทย์เนื่องจากมีอาการปวดท้องเรื้อรังและประจำเดือนผิดปกติ เมื่อตรวจวิเคราะห์ ทีมแพทย์พบระดับไมโครพลาสติกและสารพลาสติกในร่างกายสูงผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะท้าย ขณะที่กำลังวางแผนแต่งงาน

พฤติกรรมเสี่ยงของผู้ป่วย เมื่อสอบถามรายละเอียด พบว่าเธอมักใช้ภาชนะที่ปล่อยสารอันตรายออกมา เช่น

  • ใส่ซุปและก๋วยเตี๋ยวร้อนในถุงพลาสติกและกล่องโฟม
  • ใส่อาหารกลางวันในกล่องพลาสติกใช้แล้วทิ้งคุณภาพต่ำ
  • ดื่มกาแฟร้อนจากแก้วพลาสติกทุกวัน
  • สัมผัสกับกระดาษใบเสร็จรับเงินที่มีสารพลาสติกเป็นประจำจากงานที่ทำ

ไมโครพลาสติกและสารพลาสติกก่อมะเร็งได้อย่างไร?

ดร.หลิว อธิบายว่า

  • ไมโครพลาสติก (Microplastic) คือเศษพลาสติกขนาดเล็กไม่เกิน 5 มม. ที่เกิดจากการแตกตัวของผลิตภัณฑ์พลาสติก เช่น ถุงพลาสติก ขวดน้ำ และกล่องโฟม
  • สารพลาสติก (Plasticizers) เช่น BPA (Bisphenol A) และ Phthalates เป็นสารเติมแต่งที่ช่วยให้พลาสติกมีความยืดหยุ่นและทนทาน พบได้ในถุงพลาสติก ขวดน้ำ กล่องโฟม และกระดาษใบเสร็จรับเงิน

ทั้งสองสารนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านอาหาร น้ำดื่ม การสูดดม หรือดูดซึมทางผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อใช้ภาชนะที่มีไมโครพลาสติกและสารพลาสติกใส่อาหารร้อน อาหารที่มีไขมัน หรือมีความเป็นกรดสูง เช่น น้ำมะนาวและน้ำส้มสายชู

กระบวนการก่อมะเร็ง

  • BPA และ Phthalates รบกวนฮอร์โมน ส่งเสริมการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ และลดประสิทธิภาพการขับสารพิษของตับ
  • ไมโครพลาสติก สะสมในเลือด ตับ ไต ปอด และสมอง ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และนำพาสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
  • ผลกระทบโดยตรง กับมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก BPA กระตุ้นฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เนื้อเยื่อมดลูกเจริญผิดปกติ ไมโครพลาสติกก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

นอกจากนี้ ไมโครพลาสติกและสารพลาสติกยังเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น

  • ภาวะมีบุตรยากและความผิดปกติของทารกในครรภ์
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอและเพิ่มการอักเสบในร่างกาย
  • โรคไต ตับ และระบบประสาท
  • ปัญหาระบบทางเดินหายใจและโรคหัวใจ
  • ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ เช่น โรคอ้วนและเบาหวาน

วิธีลดความเสี่ยงจากไมโครพลาสติกและสารพลาสติก

ดร.หลิว แนะนำแนวทางป้องกันดังนี้

  • ลดการใช้พลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกใช้แล้วทิ้ง
  • หลีกเลี่ยงการใส่อาหารร้อนในถุงพลาสติกหรือกล่องพลาสติกที่ไม่ทนความร้อน
  • ใช้แก้วเซรามิกหรือแก้วแก้วแทนแก้วพลาสติก
  • หลีกเลี่ยงการอุ่นอาหารในกล่องพลาสติก ควรใช้ภาชนะทนความร้อนเช่นแก้วหรือเซรามิก
  • ไม่ใช้ขวดน้ำพลาสติกซ้ำหลายครั้ง
  • ไม่ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่เก็บในที่ร้อนหรือโดนแสงแดดนาน
  • เลือกรับประทานอาหารสด หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปที่บรรจุในพลาสติก
  • ล้างอาหารให้สะอาดก่อนรับประทาน
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปลอด BPA และ Phthalates
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกระดาษใบเสร็จรับเงินที่มีสารพลาสติก
  • รับประทานอาหารที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ผักตระกูลกะหล่ำ (ช่วยล้างพิษตับ), เห็ด (เสริมภูมิคุ้มกัน), กระเทียมและหัวหอม (ต้านอักเสบ), และปลาไขมันสูง (ลดการอักเสบและปกป้องเซลล์)

พฤติกรรมการใช้ภาชนะพลาสติกที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น มะเร็ง ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และโรคเรื้อรังอื่น ๆ การหลีกเลี่ยงพลาสติกที่มีสารอันตรายและเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

ที่มา sanook

ผู้นำเสนอข่าว

yoko

Written by:

3,775 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed