วันนี้ (30 ม.ค.68) “สถาบันวิชาการปัองกันประเทศ” เปิดเผยรายชื่อบุคคลผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “มินิ วปอ.” ผ่านเว็บไซต์ หรือชื่ออย่างเป็นทางการของหลักสูตรคือ “หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 2 โดยผู้ที่มีรายชื่อทั้งหมด 224 คนซึ่งทางสถาบันวิชาการปัองกันประเทศ ระบุถึงวัตถุประสงค์ของหลักสูตรวปอ.บอ. ระบุไว้ 5 ข้อ คือ
1. เพื่อมุ่งส่งเสริมให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ทั้งจากส่วนราชการภาคเอกชน และบุคคลทั่วไปมีจิตสำนึกตระหนักถึงภัยคุกคามในมิติต่าง ๆ ที่มีผลต่อความมั่นคงแห่งชาติ และเข้ามามีบทบาทหรือมีส่วนร่วม หรือ ให้การสนับสนุนภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงในขอบเขตที่พึงกระทำได้
2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้าใจถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ แนวคิด รูปแบบภัยคุกคามมิติต่าง ๆทั้งในระดับโลก ภูมิภาค และประเทศไทย สถานการณ์ความมั่นคงระหว่างประเทศ และภายในประเทศ สามารถวิเคราะห์ใช้เครื่องมือในการตรวจสอบ และบริหารจัดการความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างเหมาะสม
3. เพื่อเสริมสร้างผู้บริหารรุ่นใหม่ให้มีสมรรณนะและความสามารถในการคิด วิเคราะห์ ประเด็นปัญหาวิกฤติภายในประเทศหรือระหว่างประเทศที่มีความสำคัญ อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย วางแผน เสนอแนวทางบริหารจัดการปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างเหมาะสมด้วยการมีส่วนร่วมกับชุมชนถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อความมั่นคงแห่งชาติให้เกิดผลในเชิงปฏิบัติ และสร้างชุมชน สังคมให้เข้มแข็ง
4. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ให้เป็นผู้นำ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อชุมชน สังคม ประเทศชาติและเป็นนักปฏิบัติการที่มีวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคง มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำนึกเพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชนส่วนรวมเป็นสำคัญ มากกว่าประโยชน์ส่วนตน
5 เพื่อเสิมสร้างเครือข่ายผู้บริหารรุ่นใหม่ระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาคส่วนทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ส่วนราชการอิสระนักธุรกิจภาคเอกชน และบุคคลทั่วไป เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ มีความสามัคคีมีความร่วมมือแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์และนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการประสานงานระหว่างกัน
สำหรับรายชื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมพบว่ามีจำนวนทั้งหมด 224 รายชื่อ พบว่ามีชื่อนางสาวสุวณา ปิยะพิสุทธิ์ ประธานมูลนิธิสุวณา ประชาสงเคราะห์ และที่ปรึกษากรรมาธิการการปกครอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมเรียนกับ ลูกนักการเมืองคนกีฬาอีกหลายคนไม่ว่สจะเป็น นายภเชศ จารุมนต์ผู้อำนวยการศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพานิชย์ บุตรชายของ นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, นางญานิกา เทียนทอง ภรรยาคู่สมรส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง รวมถึงนางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ ลูกสาวของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตนายกลอนเทนนิสสมาคมและรองนายกรัฐมนตรี
สพหรับรายชื่อลูกหลานคนดังติดรายชื่อมีดังนี้ นายเกริกพงศ์ งาทวีสุข, นางสาวเกศินี โตทับเที่ยง, นายจรัสพงศ์ ล่ำซำ, นายชลัฐ รัชกิจประการ, นายณณัฎฐ์ หงษ์ชูเวส, นายนารา เกตุสิงห์, นายพิชญ์ รัตนเพียร