จับได้แล้ว ตร.ดอนเมือง ร่วมกับ สืบนครบาล 2 ตามรวบมือฆ่า ทุบหัว “ชายเร่ร่อน” แล้วใช้ใบกล้วยปิดอำพรางศพ ย่านดอนเมือง รับสารภาพกินเหล้าก่อนก่อเหตุ ไม่รู้จัก หรือโกรธผู้ตายมาก่อน
จากกรณีที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งพบศพชายนิรนามบริเวณป่าหญ้าข้างทาง ริมถนนกำแพงเพชร 6 ใกล้แฟลตสวัสดิการการท่าอากาศยาน แขวงและเขตดอนเมือง มีบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าผาก และยังพบหลักปักแนวเขตไฟถนนมีคราบเลือดติดอยู่ ส่วนศพถูกลากลงไปทิ้งข้างทางโดยมีการนำใบกล้วยมาปิดอำพรางไว้ จนมีคนที่เดินผ่านมาพบศพ ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน แล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. 67 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง นำโดย พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.สมโชค คงตำหนิ ร.ต.อ.โชคชัย พิณะเวศน์ รองสว.สส.สน.ดอนเมือง กำลังฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง และฝ่ายสืบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 2 นำโดย พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ต.ณัฐพล คำแหง สว.กก.สส.บก.น.2 ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆาตกรรมทุบหัวชายเร่ร่อน แล้วใช้ใบกล้วยปิดอำพรางศพ ย่านดอนเมือง เมื่อวันที่ 28 พ.ย.
โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนพหลโยธินใต้สะพานกลับรถใกล้วินรถตู้ต่างจังหวัดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางชุดที่ใส่ในวันก่อเหตุ หลังมีเบาะแสว่าคนร้ายหนีมากบดานอยู่แถวตลาด 200 ปี ปทุมธานี ก่อนนำกำลังปูพรมจนสามารถจับกุมได้
จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยบอกว่าตนเองชื่อ นายพิพัณ นามสกุลแซ่ แต่การตรวจสอบกลับไม่พบชื่อดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่มาทราบภายหลังว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีชื่อตามที่กล่าวอ้าง แต่ชื่อ นายฉลองรัฐ กองโอสถ หรือ ปั๊ม หรือ ต๊ะ อายุ 36 ปี ชาวชัยบาดาล จ.ลพบุรี จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สน.ดอนเมือง
นายฉลองรัฐ หรือ ต๊ะ ยอมรับว่า วันเกิดเหตุตนเองกินเหล้าจนเมา แล้วเดินมาตามถนนไปเรื่อยๆ เมื่อเดินมาถึงที่เกิดเหตุได้ปีนข้ามแบริเออร์แล้วไปเจอผู้ตายนอนหลับอยู่ จึงหยิบหินทุ่มไปที่หัว 1 ครั้ง จนแน่นิ่ง แล้วเดินไปสูบบุหรี่ ก่อนจะเดินกลับมาใช้หินทุบไปที่เดิมอีก 1 ครั้ง แล้วได้ถอดกางเกงผู้ตายออก หวังที่จะกระทำชำเราแต่ไม่สำเร็จ
จึงลากผู้ตายลงไปข้างทาง แล้วพยายามจะทำชำเราเป็นรอบที่ 2 ก็ยังเหมือนเดิม จึงช่วยตัวเองจนสำเร็จในป่า ด้วยความกลัวว่าผู้ตายจะฟื้นขึ้นมา จึงใช้หินทุบไปที่เดิมอีกหลายครั้งจำไม่ได้ และตอนนั้นไม่ได้ดึงกางเกงผู้ตายกลับขึ้นมา ก่อนจะเดินไปดึงใบกล้วยที่อยู่เลยจากจุดเกิดเหตุ มาจำนวน 3 ใบ มาปิดศพไว้เพื่ออำพรางคดีให้คิดว่าเป็นการข่มขืนแล้วฆ่า แทนที่จะเป็นการจงใจที่จะมาฆ่า
หลังก่อเหตุได้เดินกลับมาที่สถานีรถไฟการเคหะฯ เพราะเป็นที่พักประจำ และได้ไปเจอลุงคนหนึ่งซึ่งเขาพูดไม่ได้เพราะเจาะที่คอ ไม่เคยรู้จักมาก่อน รู้แค่ว่าจะไปทางเดียวกัน จึงพากันขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีรถไฟฟ้าการเคหะฯ ลุงเขามีบัตรคนพิการจึงไม่เสียเงิน แต่ตนเองต้องไปเสียเงินซื้อตั๋ว เมื่อมาถึงสถานีรถไฟรังสิตก็ได้ลงลิฟต์มาชั้นล่าง ก่อนจะแยกย้ายกันไป
นับจากวันนั้นตนเองก็อาศัยเก็บของเก่าขอเงินซื้อเหล้ากิน ใช้ชีวิตไปวันๆ ก่อนมาถูกจับ ส่วนชุดที่ตนเองใส่ ดูคล้ายลูกจ้างร้านอาหารนั้นตนเองเก็บมาจากถังขยะ ไม่ได้มารับจ้างหรือทำงานใดๆ ยอมรับว่าไม่เคยรู้จัก หรือโกรธแค้นอะไรกับผู้ตายมาก่อน ตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม และทำเพียงคนเดียว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นอำพรางศพ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายฉลองรัฐ นั้น เคยถูกจำคุกในคดีฆ่าบุพการี เมื่อปี 2549 พ้นโทษปี 2559 และในปี 2560 ถูกจำคุกในคดีร่วมกันชิงทรัพย์ในเคหสถานเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง พ้นโทษปี 2564 และในปี 2565 ก็ถูกจำคุกในคดีทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัส เพิ่งพ้นโทษมาปลายปี 2566 ก่อนจะมาก่อเหตุลงมือฆาตกรรมชายเร่ร่อนเสียชีวิตในครั้งนี้.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/