บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ เปิดตัวแบรนด์ DENZA (เดนซ่า) ยนตรกรรมพลังงานใหม่ในกลุ่มธุรกิจ BYD ที่นำเสนอนิยามใหม่ของความหรูหราให้กับทุกการเดินทาง เจาะกลุ่มผู้บริโภคในตลาดระดับบนด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยเหนือระดับ พร้อมขุมพลังของนวัตกรรมที่ตอกย้ำจุดยืนด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างเสริมโลกที่ยั่งยืนให้กับทุกคน พร้อมทั้งเปิดตัว DENZA D9 โมเดลแรกอย่างเป็นทางการสำหรับตลาดประเทศไทย โดยประกาศราคาขายแนะนำ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ DENZA D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท และ DENZA D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท โดยเป็นราคาพิเศษเฉพาะผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เท่านั้น และสำหรับผู้ที่จองรถ DENZA D9 Performance AWD ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 จะได้รับโฮมชาร์จเจอร์ ABB พร้อมบริการติดตั้ง เพิ่มอีกด้วย
ยนตรกรรมสำหรับผู้บริหารยุคใหม่ โดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มอบประสบการณ์การเดินทางอันหรูหราและเป็นเอกลักษณ์
รูปแบบรถยนต์
รถตู้อเนกประสงค์ระดับลักชัวรี่ 7 ที่นั่ง (Luxury MPV)
ข้อมูลขนาดตัวถัง
• ความยาว 5,250 มิลลิเมตร
• ความกว้าง 1,960 มิลลิเมตร
• ความสูง 1,920 มิลลิเมตร
• ระยะฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตร
• ระยะห่างของล้อ คู่หน้า/คู่หลัง 1,675/1,675 มิลลิเมตร
• รัศมีวงเลี้ยงแคบสุด 5.95 เมตร
• ความสูงใต้ท้องรถไม่รวมน้ำหนักบรรทุก 155 มิลลิเมตร
• ความสูงใต้ท้องรถรวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 140 มิลลิเมตร
• ความจุสัมภาระด้านท้าย 410 ลิตร
• ความจุสัมภาระด้านท้ายสูงสุด 2,310 ลิตร
แพลตฟอร์ม
• e-Platform 3.0 ที่พัฒนาเฉพาะสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าที่เป็นเอกสิทธิ์ของ BYD ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบ 8 in 1
• BYD Blade Battery ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 103.36 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
• ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC
• รุ่น Premium 600 กิโลเมตร
• รุ่น Performance AWD 580 กิโลเมตร
• แพลตฟอร์มช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C สำหรับรุ่น Performance AWD เพื่อความเป็นที่สุดของความสบายระหว่างการโดยสาร
การพัฒนาด้วยเทคโนโลยีระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ
• ก้าวข้ามขีดจำกัดทางกลไกของระบบกันสะเทือนแบบพาสซีฟ เพื่อสัมผัสถึงระบบกันสะเทือนที่มีแรงอัดและแรงคืนตัวที่มีประสิทธิภาพ
• รองรับการปรับแต่งความแข็งกระด้างและความนุ่มนวลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ความสบายของการโดยสารตามที่คุณเลือก
• อัตราส่วนแรงอัดและแรงคืนตัวที่มีช่วงระยะของการอัดและคืนตัวที่มากกว่าระบบกันสะเทือนทั่วไปหลายเท่า
• ระบบตรวจสอบผ่านเซ็นเซอร์ตรวจจับการสั่นสะเทือนของการยุบและการคืนตัวของรถรวมถึงตรวจจับอาการของรถทั้งคัน โดยระบบควบคุมจะประมวลผลเพื่อควบคุม โซลินอยด์วาล์วผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของระบบกันสะเทือน เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาของการทรงตัวที่ไม่มีเสถียรภาพ ไม่ว่าจะเป็นการยุบตัวของตัวรถ การพลิกคว่ำ การเกิดแรงกระชากเมื่อเบรกหรือเหยียบคันเร่ง ซึ่งไม่เพียงส่งผลให้มีรถสามารถควบคุมให้มีความสบายในการโดยสารอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ภาพรวมการเสริมประสิทธิภาพที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
• ประสิทธิภาพด้านความสบาย:
• ระบบกันสะเทือนอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะช่วยให้แรงหน่วงของระบบกันสะเทือนที่น้อยลง ที่จะช่วยเพิ่มให้ระหว่างการโดยสารสบายมากยิ่งขึ้น
• ประสิทธิภาพการควบคุม:
• ระบบกันสะเทือนแบบอิเล็กทรอนิกส์ ก็ยังสามารถสร้างแรงหน่วงที่มากกว่าเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมรถให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟจะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าระบบกันสะเทือนทั่วไปในท้องตลาดอย่างชัดเจน
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
• ระบบขับเคลื่อน
• รุ่น Premium ขับเคลื่อนล้อหน้า
• รุ่น Performance AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
• กำลังรวมสูงสุด
• รุ่น Premium 230 กิโลวัตต์
• รุ่น Performance AWD 275 กิโลวัตต์
• แรงบิดรวมสูงสุด
• รุ่น Premium 360 นิวตัน-เมตร
• รุ่น Premium 470 นิวตัน-เมตร
• อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (วินาที)
• รุ่น Premium ภายใน 9.5 วินาที
• รุ่น Performance AWD ภายใน 6.9 วินาที
• ระบบกันสะเทือน
• ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท
• ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ มัลติลิงก์
• มาพร้อมกับดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายอากาศทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
• รุ่น Premium ติดตั้ง ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD
• รุ่น Performance ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ในประเทศไทย
• กำลังการชาร์จ
• รองกรับการชาร์จกระแสสลับ AC – กำลังสูงสุด 11 กิโลวัตต์ (3 เฟส)
• รองรับการชาร์จกระแสตรง DC แบบ CCS2 – กำลังสูงสุด166 กิโลวัตต์
• ความสบายห้องโดยสาร
• VIP Cockpit จำนวน 3 แถว รวม 7 ที่นั่ง (รูปแบบการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2-2-3)
• ห้องโดยสารที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและระบบขับขี่อัจฉริยะ
• ระบบการป้องกันอุบัติเหตุก่อนจะเกิดการชน Active Safety
• ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
• ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
• ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
• ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
• ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTB)
• ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
• ระบบช่วยช่วยกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ (HBA)
• ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
• อุปกรณ์ความปลอดภัยหลังจากการชนเกิดขึ้น Passive Safety
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้าฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
• ถุงลมนิรภัยด้านข้างฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
• ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง
• ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง – ฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ผู้โดยสารแถวที่สอง และ ผู้โดยสารแถวที่สาม
• ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
• ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
• ระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS)
• ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
• เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุรอบคัน 8 จุด
• กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
• ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
• ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
• ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
การออกแบบ
ออกแบบภายใต้แนวคิด DENZA π-Motion สะท้อนความโมเดิร์นและความหรูหราของแบรนด์ โดยผสานเทคโนโลยีและรูปลักษณ์ที่ทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
• ด้านหน้ารถแบบ Pi Motion
• การออกแบบด้านหน้าของ DENZA π-Motion ใช้แนวคิด Pi Motion (ไพร์ โมชั่น) นำเสนอความโมเดิร์นและความหรูหรา มาพร้อมไฟหน้ารูปแบบ Meteor Arrow และกระจังหน้าแบบฝนดาวตกสีเงิน
• ด้านหลังไฟท้ายออกแบบด้วยแนวคิดฝนดาวตกแห่งกาลเวลา
• มาพร้อมกับประตูไฟฟ้าคู่สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ยกระดับความหรูหราและความสะดวกสบาย เสริมด้วยยางเก็บเสียงคุณภาพสูงเพื่อให้ห้องโดยสารเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวตลอดการเดินทาง
• ระบบไฟส่องสว่างรอบคัน
• ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED มาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
• ระบบไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential
• ไฟเบรกบน ดวงที่ 3 แบบ LED
• ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
• ฟังก์ชันหน่วงเวลาการปิดไฟหน้า Follow-Me-Home
• ระบบไฟส่องมุมอับสายตา LED เมื่อเปิดไฟเลี้ยงหรือหมุนพวงมาลัยเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ
• แสงไฟตกแต่งช่องชาร์จไฟแบบมัลติคัลเลอร์
• ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
• ครบครันทั้งระบบอำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ มั่นใจได้ทุกการเดินทาง
• เซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำฝนพร้อมก้านปัดน้ำฝนแบบไร้โครงเหล็ก
• สำหรับรุ่น Performance AWD กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติพร้อมกระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่งกล้องมองภาพ (ติดตั้งในตัว)
• ห้องโดยสารที่ทันสมัย
• ห้องโดยสารเพิ่มความหรูหราในการสัมผัสสำหรับรุ่น Performance AWD ด้วยเพดานห้องโดยสารบุด้วยหนังกลับแบบพรีเมียม และเพดานห้องโดยสารแบบผ้าในรุ่น Premium
• ประตูผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าแบบผ่อนแรงปิด
• ห้องโดยสารมาพร้อมกับซันรูฟพร้อมม่านบังแดดสำหรับห้องโดยสารด้านหน้า และ หลังคากระจกขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
• ระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศแบบมัลติคัลเลอร์ พร้อมโหมดต่างๆ เพื่อปรับบรรยากาศห้องโดยสารให้มีความหรูหราเพิ่มมากยิ่งขึ้น
• หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว แบบ 3 มิติ
• ระบบมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 15.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รวมถึงรองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย ระบบเครื่องเสียงพรีเมียมแบบ Hi-Fi Class Dynaudio พร้อมสำโพง 14 ตำแหน่ง
• สำหรับรุ่น Performance AWD เสริมด้วยระบบแสดงผลบนกระจกหน้า ขนาด 12 นิ้ว (W-HUD) เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
• เบาะนั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับ เบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง โดยเบาะที่นั่งทั้งสองแถวมาพร้อมระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ ระบบจดจำตำแหน่งเบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง หน้าจอ LCD แบบมัลติฟังก์ชันบริเวณที่พักแขนแถวที่สองสำหรับควบคุมฟังก์ชันต่างๆ อย่างง่ายดาย
• ทั้งนี้เบาะนั่งยังมาพร้อมกับพนักพิงศรีษะที่สามารถปรับระดับสูงต่ำ และการปรับทรงให้เข้ากับสรีระศรีษะได้ 2 ทิศทางสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และ ปรับทรงให้เข้ากับสรีระศรีษะ 4 ทิศทางสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง
• ระบบตู้เย็นภายในรถยนต์ความจุ 7.5L ที่สามารถปรับช่วงองศาได้ตั้งแต่ -6 จนถึง 50 องศา และที่วางแก้วรอบคัน 12 ใบ ครอบคลุมทุกที่นั่ง
• ระบบปรับอากาศแบบอิสระ 3 โซน – ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้าและห้องโดยสารตอนหลัง พร้อมระบบกรองอากาศ IONIZER และระบบกรองฝุ่น PM2.5 แบบประสิทธิภาพสูง (CN95)
• ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 3 จุด (กำลังสูงสุด 50W) ประกอบด้วย 1 จุดในห้องโดยสารตอนหน้า และ 2 จุด สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง
• แหล่งจ่ายไฟรอบคัน 7 จุด
• ช่องจ่ายไฟ 12V และ ช่อง USB – C และ USB – A อย่างละ 1 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
• ช่อง USB – C 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง
• ช่อง USB – C 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารแถวที่สาม
• อื่นๆ
• กระจกเปิดปิดอัตโนมัติแบบสัมผัสสวิตช์ครั้งเดียวพร้อมระบบป้องกันการหนีบ
• กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติและปรับองศาไฟฟ้า พร้อมระบบทำความร้อนไล่ฝ้า
• กระจกมองข้างพับเก็บไฟฟ้า
• ระบบจดจำองศากระจกมองหลัง
• เซ็นทรัลล็อก
• ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า (สามารถตั้งค่าการจดจำตำแหน่งได้)
• รองรับการตอบสนองคำสั่งเสียงอิสระ 4 โซน
• ระบบ Keyless Entry และ Keyless Start
• ระบบควบคุมการสตาร์ทรถยนต์ระยะไกล
• ระบบควบคุมการเปิดแอร์ล่วงหน้าระยะไกล
• รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4G
• รองรับการอัพเดทซอฟแวร์ผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต (OTA)
• DENZA กุญแจดิจิตอล NFC ที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์ของคุณเป็นกุญแจอัจฉริยะ
• ระบบกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC (NFC Card)