“ทนายตั้ม” หลบสื่อระหว่างไปขึ้นศาล เจ๊อ้อย ให้การเพิ่ม ป.สอบปากคําเข้ม

“ทนายตั้ม” หลบสื่อระหว่างไปขึ้นศาล เจ๊อ้อย ให้การเพิ่ม ป.สอบปากคําเข้ม

“เจ๊อ้อย” เข้าให้ปากคำกองปราบฯเพิ่มคดีกล่าวหา “ทนายตั้ม” โกงลงทุนหวยออนไลน์ 71 ล้านบาท “บิ๊กก้อง” สั่งตั้งเป็นรูปคณะทำงานมอบ “รองหมู-สุวัฒน์ แสงนุ่ม” เป็นหัวหน้า ชี้ทุกคนอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน ขณะที่ผู้การกองปราบฯเผย ยังอยู่ในการสอบปากคำถึงภาพรวม ตั้งแต่เริ่มต้นรู้จักความสัมพันธ์ของทั้งคู่ พฤติการณ์ทั้งหมดเพื่อพิจารณาว่าเข้าความผิดฐานใดบ้าง ส่วน “ทนายตั้ม” โผล่ศาลจังหวัดนครพนมคดีถูกฟ้องหมิ่นประมาทเรียก 30 ล้าน ก่อนชิ่งหนีสื่อ ด้าน “ทนายเดชา” ให้สัมภาษณ์สดรายการ “สรยุทธ” ระบุทนายรุ่นน้องบอกไม่คืนเงินให้ 100% อ้างคืนก็ไม่จบ ภาษีก็ไม่รอด ฟอกเงินก็ไม่รอด ตั้งข้อสังเกตช่วงนี้โดนเท แม้กระทั่ง นักการเมืองใหญ่ระดับ หน.พรรค รัฐมนตรี ที่เคยใช้บริการตอนนี้บอกไม่สนิทแล้ว

“เจ๊อ้อย” เข้ากองปราบฯให้ปากคำเพิ่มปมแจ้งจับ “ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ข้อหาฉ้อโกงต้มลงทุนหวยออนไลน์สูญเงิน 71 ล้านบาท กลายเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจเพราะเงื่อนปมหลายเรื่องโดยเฉพาะด้านลบของทนายคนดังถูกนำมาเผยในสื่อออนไลน์ จนเจ้าตัวถึงกับโพสต์ “พัดลมยังส่ายหน้าเลย”

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย อุบลเลิศ พร้อมเลขาส่วนตัวและทนายความ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.กรณีถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอกลวงเงินไปลงทุนธุรกิจหวยออนไลน์สูญเงินไปกว่า 71 ล้านบาท มี พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3บก.ป.ร่วมสอบปากคำเป็นการให้ปากคำต่อเนื่องจากการลงพื้นที่สอบปากคำเจ้าตัวในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมายังไม่แล้วเสร็จต้องเชิญมาให้ปากคำต่ออีกครั้งในวันนี้เพื่อให้การดำเนินคดีสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.เผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสอบปากคำเจ๊อ้อย โดยวันนี้จะสอบปากคำในทุกๆประเด็นและทุกมิติอีกครั้งเพื่อให้คดีรัดกุมมากยิ่งขึ้น เมื่อถามว่าหากสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องออกหมายเรียกหรือหมายจับนายษิทราได้เลยหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า ขอสอบปากคำให้เสร็จสิ้นก่อน ยืนยันว่าการสอบปากคำทุกครั้งตำรวจจริงจังทุกครั้ง ขอเวลาทำงานก่อนคาดว่าวันนี้จะใช้เวลาสอบปากคำนานพอสมควร เพราะรายละเอียดค่อนข้างเยอะ

ต่อมาเวลา 15.50 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ร่วมเปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย อุบลเลิศ ที่แจ้งความเอาผิดนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ในข้อหาฉ้อโกง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงสอบปากคำเจ๊อ้อยอยู่ แต่ในส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม สำหรับกระแสข่าวเรื่องเงิน 39 ล้านบาท ที่มีการกล่าวอ้างว่าทนายตั้มหลอกให้เจ๊อ้อยโอนเงินไปใช้หนี้ให้คนใกล้ชิดนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน วันนี้เป็นการสอบสวนภาพรวมทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่ความเป็นมาของการรู้จักกันและความสัมพันธ์ระหว่างเจ๊อ้อยกับทนายตั้ม รวมไปถึงพฤติการณ์ทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าจะมีมูลความผิดในฐานใดบ้าง

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.กล่าวว่า คดีนี้ได้แต่งตั้งเป็นคณะทำงานมี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.เป็นหัวหน้า ขณะนี้เป็นการรับเรื่องอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล หากพบว่าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดจะเชิญมาร่วมพิจารณาด้วยกัน มองว่าทนายตั้มเป็นประชาชนคนหนึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ตำรวจทำทุกอย่างเท่าเทียมกันเหมือนคดีอื่นๆทำไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ส่วนจะเรียกทนายตั้มมาให้ปากคำเร็วๆนี้หรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรภพระบุว่า ตอนนี้ยังเป็นการรับข้อมูลจากผู้กล่าวหาจะรวบรวมข้อมูลตรงนี้ก่อนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะเชิญผู้ถูกกล่าวหามาให้การ สำหรับหมายเรียกหรือหมายจับอยู่ระหว่างพิจารณา ต้องดูข้อเท็จจริงว่าจะไปถึงขั้นตอนใด ทั้งนี้ ยืนยันว่าหากพบความผิดจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่แน่นอน

ต่อมาเวลา 18.30 น. การสอบปากคำ “เจ๊อ้อย” หรือ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ ยังคงดำเนินไปต่อเนื่องที่ กก.3.บก.ป. แม้จะสอบปากคำนานเกือบ 8 ชั่วโมง แต่การสอบปากคำยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้กองทัพผู้สื่อข่าวยังคงเฝ้ารออยู่ด้านล่างหน้าอาคารกองบังคับการปราบปราม เนื่องจากก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่าเจ๊อ้อยจะลงมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ กับกลุ่มผู้สื่อข่าวภายหลังจากการสอบปากคำเสร็จสิ้น

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนที่ห้องประชุม บช.ก. อาคารพิทักษ์สันติ ผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พร้อมทีมสืบสวนสอบสวนกองปราบฯ เพื่อสรุปทิศทางการแกะรอยหาพยานหลักฐานต่างๆที่อาจจะมีการกระทำความผิดเพิ่มเติมนอกจากคดีฉ้อโกง โดยมีการพิจารณาว่ามีส่วนใดบ้างที่จะต้องนำมารวบรวมในสำนวนการสอบสวน กรณีที่ทนายดังหลอกลวงเงินเจ๊อ้อยไปกว่า 71 ล้านบาท และในส่วนของคดีอื่นๆด้วย

ส่วนความเคลื่อนไหวของทนายคนดัง เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่ศาลจังหวัดนครพนม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด มาที่ศาลหลังตกเป็นจำเลยคดีถูกนายศุภชัย หรือครูแก้ว โพธิ์สุ อดีต สส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องฐานความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีร่วมกับเจ๊ช่อ นักธุรกิจสาวแถลงข่าวเมื่อปลายปี 2565 กล่าวหาว่า คนสนิทครูแก้วเรียกรับเงินวิ่งเต้นรับงานโครงการรัฐบาลเป็นเงินกว่า 25 ล้านบาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ฟ้องเอาผิดทางอาญารวมถึงฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท วันนี้ศาลนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย มีรายงานว่า จำเลยเคยยื่นเสนอไกล่เกลี่ยกับโจทก์ แต่ยังไม่เจรจาและยังไม่เคยพบกันมาก่อน อยู่ระหว่างขั้นตอนของการดำเนินคดี

มีรายงานว่า ทนายตั้มมาพร้อมทีมงาน 2-3 คน แต่ไม่มีใครยืนยันว่ามีเจ๊ช่อมาด้วยหรือไม่ จากนั้นเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของศาล ทนายตั้มแจ้งให้ผู้สื่อข่าวรอด้านหน้าศาล หลังเสร็จการไต่สวนของศาลจะมาให้สัมภาษณ์ กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง ถึงเวลา 13.00 น. พบว่าเงียบผิดปกติ สอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าทนายตั้มออกจากศาลไปแล้ว คาดว่าออกไปทางด้านหลังศาลเพื่อเลี่ยงการให้สัมภาษณ์

วันเดียวกัน ในรายการ “กรรมกรข่าวคุยนอกจอ” ทางช่อง 3 นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวคนดังรายการดังกล่าวสัมภาษณ์สดทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ถามถึงข่าวในขณะนี้เท่าที่ได้คุยกับทนายตั้ม-ษิทราแล้วมีทางสู้ไหม นายเดชากล่าวว่า ทนายตั้มได้ตั้งทีมทนายต่อสู้คดีไว้แล้ว คิดว่ามีพยานหลักฐานไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้ฉ้อโกง ไม่ได้เลี่ยงภาษี ไม่ได้ฟอกเงิน บอกพี่อ้อยเลยนะว่าเขาไม่คืนเงินร้อยเปอร์เซ็นต์ ทนายตั้มบอกว่าให้แล้วจะคืนทำไม เพราะถึงแม้จะคืนเงินเหมือนจะจบแต่ภาษีก็ไม่รอดฟอกเงินก็ไม่รอด และทนายตั้มบอกอีกว่าผู้หลักผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่ง ชาติที่เป็นคู่กรณีบิ๊กโจ๊กเตรียมเช็กบิลด้วย แม้แต่นักการเมืองต่างๆ สังเกตว่าต่างก็พากันเทเขา ไม่รู้จักเขา คนเหล่านี้สมัยก่อนใช้บริการเขาทั้งนั้นแหละ ไปเช็กบิลคุณชูวิทย์บ้างทำโน่นทำนี่ ตอนหลังมาพูดว่าบังเอิญเจอกันบังเอิญถ่ายรูป ทุกคนเทเขาหมด ไม่มีใครรักตั้ม ทนายตั้มบอกว่าพัดลมยังส่ายหน้า

นายสรยุทธถามย้ำว่า กำลังบอกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเคยใช้ทนายตั้ม-ษิทราไปสู้กับคุณชูวิทย์ใช่ไหม ทนายเดชาอึกอักๆก่อนตอบว่า เอาเป็นทนายตั้มพูดลอยๆละกัน ตนไม่อยากเป็นคดี หลายพรรคอยากฟ้องตนเข้าไปด้วย เอาเป็นว่านักการเมืองใหญ่ก็เคยใช้บริการทนายตั้มไปสู้กับคุณชูวิทย์หรือเปล่าล่ะ แล้วมาวันนี้ก็เทไม่รู้จัก เดินผ่านๆ แล้วไปนั่งกินร้านโฟร์ซีซันที่ฮ่องกงหรืออย่างไรล่ะ ทุกคนใช้บริการทั้งนั้นแหละ จริงๆตนบอกทนายตั้มนะว่า “ไหนๆเอ็งจะตายแล้ว เอ็งก็อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง นึกถึงบอสพอลนะ ซัดทอดแล้วเอามันลงหลุมไปให้หมดเลยทีเดียว” ถึงตรงนี้นายสรยุทธหัวเราะชอบใจก่อนกล่าวใช้คำขวัญเดียวกับบอสพอลไปเลย ทนายเดชากล่าวว่า ใช้ทีเดียวแล้วซัดทอดไปเลย นักการเมือง หัวหน้าพรรค รัฐมนตรีต่างๆก็เคยใช้บริการทั้งนั้นแหละ แล้วมาวันนี้บอกไม่สนิท ทั้งที่เตะฟุตบอลด้วยกัน กินข้าวเดียวกัน กินไวน์ด้วยกัน

ทนายคลายทุกข์กล่าวอีกว่า ตนบอกทนายตั้มด้วยว่ามีหลักฐานอะไรไม่กล้าแฉ เอามาให้ตนเดี๋ยวจัดให้ จัดการนักการเมืองพวกนี้ลากมันลงหลุมไปให้หมด เรื่องลอตเตอรี่มีที่มาที่ไปลองไปดูข่าวเก่าสมัยท่านนายพลคนดังมีอำนาจไปจับใคร แล้วหลังจากนั้นจับต่อไหม จับแค่รายเดียวหรือเปล่า พึ่งพาอาศัยกันหมด เรื่องให้ไปทำแพลตฟอร์มมาให้มีเค้าลางหมด ไปดูข่าวเก่าสิสมัยที่นายพลคนนั้นมีอำนาจจับใครให้ดูก่อนหรือเปล่า แล้วหลังจากนั้นไปทำอะไรต่อตนไม่รู้นะเท่าที่ตนรู้มาก็เป็นแบบนี้ แต่ทนายตั้มบอกว่าทุกคนก็ใช้บริการเขาทั้งนั้น ส่วนตนขอบอกว่าไม่ได้เข้าข้างทนายตั้ม เพราะบอกทนายตั้มว่าถ้าทำผิดก็ติดคุกไป

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,818 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *