หลานทรพีเสพยาจนหลอน ถูกตาวัย 84 ดุด่า คว้ามีดฟันคอ ตายสยองคาบ้าน

หลานทรพีเสพยาจนหลอน ถูกตาวัย 84 ดุด่า คว้ามีดฟันคอ ตายสยองคาบ้าน

หลานทรพีเสพยาจนหลอน ถูกตาวัย 84 ดุด่า ไม่ทำมาหากิน ฉุนจัด คว้ามีดปังตอฟันคอตายสยองคาบ้านพัก ก่อนเดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไร ก่อนถูกตำรวจตามมารวบตัว อ้างเสพยาบ้าไป 1 เม็ด และไม่ได้ตั้งใจฆ่า เป็นเพียงอารมณ์โมโหชั่ววูบ

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 16 ก.ค. 67 พ.ต.ท.นพ.วงศ์พุฒิ สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี ได้รับแจ้งเหตุหลานชายหลอนยา ใช้มีดปังตอฟันคอ ตามใบหน้า และศีรษะ เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 38 ม.10 บ.เกิ้งน้อย ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ส่วนหลานชายหลังก่อเหตุได้เดินเข้าไปหลบซ่อนในบ้านตัวเอง ที่อยู่ด้านหลังบ้านที่เกิดเหตุ จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยวิชาญ สุธรรมแปง ผกก.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.อาทิตย์ จันทา รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.ธนาวินทร์ แก้วเสียง นอ ผกก.ป.ฯ นำกำลังตำรวจสืบสวน ตำรวจป้องกันและปราบปรามรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.กุมภวาปี และอาสากู้ภัยมูลนิธิประชาพัฒนาธรรมกุมภวาปี ร่วมชันสูตร

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนไม้ พบศพนายใส สุกวิสัย อายุ 84 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นในห้องโถงหน้าทีวี สภาพศพสวมกางเกงวอร์มขายาวสีดำตัวเดียว ตรวจสอบที่บริเวณคอ ศีรษะ และใบหน้า ถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์มากกว่า 10 แห่ง เสียชีวิตคาที่ โดยมีญาติพี่น้องนั่งร้องไห้ สาปแช่งหลานทรพีต่างๆ นานา ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังคือ นายชนะศักดิ์ โคทนา หรือต้อม อายุ 37 ปี หลานชายผู้ตาย หลังก่อเหตุฆ่าตาแล้ว ได้เดินถือมีดปังตอเดินกลับเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนไม้ ที่อยู่ด้านหลังบ้านที่เกิดเหตุ ห่างกันประมาณ 10 เมตร

โดยมีชาวบ้านและญาติพี่น้องได้ล้อมบ้านไม่ให้หลบหนี ตำรวจจึงถือไม้ง่ามเข้าไปจับกุมตัว ซึ่งนายต้อมก็ให้จับกุมแต่โดยดี พร้อมของกลางมีดปังตอวางอยู่บนที่นอน ตรวจค้นในบ้านพบปืนแก๊ปสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก วางอยู่ในตู้เสื้อผ้า ก่อนนำตัวไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และควบคุมตัวพร้อมของกลางไปสอบสวนที่โรงพัก ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง และสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุใช้มีดปังตอที่อยู่ในครัวหน้าบ้านของตา ฟันที่ศีรษะตาจนล้มลงกับพื้น ก่อนนั่งลงกระหน่ำฟันคอและใบหน้าตาแบบไม่ยั้ง

ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กุมภวาปี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพคุณตาอาสากูภัยฯ นำไปเย็บแผล แต่งสภาพศพ ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

สอบสวนนางแตงอ่อน สุกวิสัย อายุ 77 ปี ภรรยาผู้ตายและยายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า นายต้อมเป็นหลาน เป็นลูกของลูกสาวคนที่ 3 และมีบ้านอยู่ใกล้กัน ก่อนเกิดเหตุกลางดึกเมื่อคืนนี้ หลานชายได้เดินไปเดินมา และเดินมาขอยาเส้นไปสูบ ทำให้หมาเห่าผู้ตายไม่ได้นอน ผู้ตายเลยต่อว่าเดินทำไมทั้งวันทั้งคืน หลานก็บอกว่าเดินเฉยๆ กระทั่งเวลา 04.30 น. ตนได้ตื่นขึ้นมานึ่งข้าวและทำอาหารเช้าอยู่ในครัว ส่วนคนตายนอนอยู่ห้องโถงชั้นล่าง นายต้อมได้เดินมาหาผู้ตาย เพื่อมาขอยาเส้นในตะกร้าหมากของตนอีก และได้ยินเสียงผู้ตายร้องด้วยความเจ็บปวด และเสียงมีดฟันฉับๆ หลายครั้ง และเห็นนายต้อมเดินถือมีดปังตอเปื้อนเลือดกลับไปบ้านที่อยู่ด้านหลังบ้านของตน

“จึงถามหลานว่าทำอะไรตา แต่หลานไม่ตอบ เดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอตนเดินเข้าไปในบ้านก็พบว่าตาถูกฟันนอนจมกองเลือดแล้ว คิดว่าที่สาเหตุเป็นแบบนี้ เพราะหลานติดเสพยาบ้ามานานเกือบ 10 ปีแล้ว และเคยถูกจับมาเมื่อ 3-4 ปี ที่ผ่านมา อยากบอกดวงวิญญาณสามีว่า หมดกรรมหมดเวรแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นกรรมเวรกับหลานตั้งแต่ภพชาติไหน พอมาชาตินี้เลยมาพบเจอกันแบบนี้ ขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี หลานชายเคยทำร้ายตามาหลายครั้ง ซึ่งก็ห้ามไว้ตลอด มาครั้งนี้ห้ามไม่ทันเลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”

ส่วน นางทองหลาง ภูครองจิตร อายุ 56 ปี หลานสาวผู้ตาย และมีศักดิ์เป็นป้าผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เช้านี้ตนได้ยินเสียงยายร้อง และเห็นนายต้อมเดินกลับออกจากบ้านยายกลับบ้านที่อยู่ติดกัน จึงได้ถามหลานว่ายายเป็นอะไร หรือใครเป็นอะไร แต่นายชนะศักดิ์ไม่ได้ตอบอะไร เดินเข้าบ้านแบบใจเย็นไปเลย ตนจึงตะโกนถามยายว่าใครเป็นอะไร ยายก็บอกว่าไอ้ต้อมฆ่าตาตายแล้ว ตนจึงเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้มาช่วย และแจ้งตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นนายต้อมอาละวาด สาเหตุที่หลานก่อเหตุฆ่าตาแท้ๆ ก็อาจเป็นเพราะแอบไปเสพยาบ้า แล้วทำให้มีอาการหลอน จึงก่อเหตุในครั้งนี้

“ก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน ได้มีนกแสกบินมาร้องที่บ้านตากับยาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือลางไม่ดี แต่ตามความเชื่อ ถ้ามีนกแสกร้องแบบนี้ก็อาจจะมีคนตาย เพราะในหมู่บ้านก็มีคนเจ็บป่วยมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นตา เพราะแกยังแข็งแรงดี ไปทำนาทุกวัน”

จากการสอบสวน นายชนะศักดิ์ หรือต้อม ให้การรับสารภาพว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ตนไปทำงานเป็น รปภ. อยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ค่าจ้างวันละ 650 บาท แต่ตนก็ลาออกจากงานเพราะที่ทำงานกับที่พักอยู่ไกลกัน จากนั้นก็กลับมาอยู่บ้าน ส่วนพ่อแม่ของตนก็ยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนกลับมาอยู่ที่บ้านก็ได้ไปทำงานที่โรงงานน้ำตาล เป็น รปภ.เหมือนเดิม แต่ตนก็ลาออกจากงานโรงน้ำตาลมาได้ 2-3 เดือนแล้ว ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเช้านี้ตนได้ไปเอากับข้าวมากินเหมือนทุกวัน หลังจากกินเสร็จกลับไปเอายาเส้นกับตา ซึ่งตาก็ได้ด่าตน ตาได้ไล่ตนออกมาจากบ้าน ว่าไม่หาการหางานทำ เดินทั้งคืนจนไม่ได้หลับนอน ทำให้ตนโมโหสุดขีด จึงได้ไปเอามีดปังตอที่อยู่ในครัวหน้าบ้านของตา เข้ามาฟันแบบไม่ยั้ง จนตายแล้วก็เดินกลับบ้าน

“ไม่เคยโกรธเคืองกับตามาก่อน ที่ทำไปมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ จึงลงมือก่อเหตุฆ่าตา เพราะเพียงถูกด่า ไม่ทำการทำงานมาขอกิน จึงโมโหและก่อเหตุ โดยก่อนก่อเหตุตนก็ได้เสพยาไป 1 เม็ดครึ่ง ที่เพื่อนซื้อมาให้ ก็อยากบอกดวงวิญญาณของตาว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าตา และขอโทษที่ทำลงไป เพราะเป็นอารมณ์โมโหชั่ววูบเท่านั้น”

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,490 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

One thought on “หลานทรพีเสพยาจนหลอน ถูกตาวัย 84 ดุด่า คว้ามีดฟันคอ ตายสยองคาบ้าน