เปิดแล้วอย่างเป็นทางการ โรงงานผลิตแห่งใหม่ของบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด มีแผนรองรับการจ้างงานกว่า 2,000 อัตรา ในเขตพื้นที่ NEC ในจังหวัดลำพูน

เปิดแล้วอย่างเป็นทางการ โรงงานผลิตแห่งใหม่ของบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด มีแผนรองรับการจ้างงานกว่า 2,000 อัตรา ในเขตพื้นที่ NEC ในจังหวัดลำพูน

เปิดแล้วอย่างเป็นทางการ โรงงานผลิตแห่งใหม่ของบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด มีแผนรองรับการจ้างงานกว่า 2,000 อัตราในเขตพื้นที่ NEC ในจังหวัดลำพูน

วันที่ 25 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. ที่นิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ โดยมีนายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวแสดงความยินดี และกล่าวเปิดงานฯ โดยมี นายฮิโรคะซึ ซาซาฮาร่า กรรมการผู้จัดการบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต้อนรับ และกล่าวรายงาน มีเอกอัครราชทูตคะสุยะ นะชิดะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสถานเอกอัครราช ทูต ญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, รองศาสตราจารย์ ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาห กรรมแห่งประเทศไทย, นายโนริโอะ นากาจิมะ ประธานบริษัท มูราตะ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, นายเคอิจิ ฮิกุจิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่, นายจุนอิจิโร คุโรดะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สำนักงานกรุงเทพ, นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, คณะผู้บริหารฯ, หัวหน้าส่วนราชการ, เจ้าหน้าที่ พนักงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแสดงความยินดี และร่วมพิธีเปิดเป็นจำนวนมาก

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ประธานในพิธี พร้อมด้วยกรรมการผู้จัดการบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกดปุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ เป็นสัญลักษณ์พิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ถือเป็นการเปิดโรงงานการผลิตแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด ฝั่งตะวันตกเฟส 1 อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาคารโรงงานผลิตแห่งใหม่นี้จะใช้ผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิก หลายชั้น (Multilayer Ceramic Capacitors) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงของมูราตะ และครองส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกสูงถึง 40% พร้อมกันนี้บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัดมีแผนจะจ้างงานประมาณ 2,000 อัตราในอนาคตอันใกล้นี้

โดยโรงงานผลิตใหม่แห่งนี้จะเสริมให้มูราตะ มีฐานการผลิตคาปาซิเตอร์ในต่างประเทศ 4 แห่ง (นครอู๋ซี ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ และประเทศไทย) และอีกสองแห่งในประเทศญี่ปุ่น (นครฟูกูอิ และนครอิซูโมะ) ทั้งนี้มูราตะให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างองค์กรที่จะสามารถตอบสนองต่อการเติบโตทั้งระยะกลางถึงระยะยาวในความต้องการตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น โดยมุ่งมั่นที่จะขยายห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้การส่งมอบมีความเสถียรและต่อเนื่องด้วยการให้มีการผลิตในหลากหลายแห่ง และในปัจจุบันด้วยความแพร่หลายของสมาร์ทโฟนที่ใช้เทคโนโลยี 5 จี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่อส่วน เช่น อุปกรณ์สวมใส่ ส่งผลให้มีความต้องการในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่อส่วนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งความหนาแน่นของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้นจึงตอบโจทย์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอ็นด์สามารถติดตั้งคาปาซิเตอร์ชนิดนี้ได้มากถึง 1,000-1,200 ตัวเป็นการแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีการย่อส่วนและขีดความสามารถ ดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นในระยะกลางและระยะยาว มูราตะ จึงได้ขยายกำลังการผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้นเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10% เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวในวงการอิเล็กทรอนิกส์

โดยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับอาคารโรงงานผลิตแห่งใหม่นี้ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 2 ชั้นเหนือพื้นดิน โดยมีพื้นที่โครงการทั้งหมด 80,950 ตรม. พื้นที่อาคาร 35,088 ตรม.สามารถรองรับการผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น ใช้งบลงทุนประมาณ 12,000 ล้านเยน หรือ ประมาณ 2,900 ล้านบาท (เฉพาะตัวอาคาร)

ที่มา:ข่าวความมั่นคงออนไลน์

ผู้นำเสนอข่าว

ยัยแม่มด

Written by:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *