จากข่าวการเสียชีวิตของ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ซึ่งหลายคนรู้จักกันในชื่อ ผู้ว่าฯ หมูป่า ที่จากไปด้วยโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 17.52 น. วันที่ 21 มิถุนายน 2566 สร้างความอาลัยให้กับทั้งครอบครัว ผู้ร่วมงาน รวมถึงประชาชนที่รู้จักท่านผ่านการติดตามข่าวภารกิจถ้ำหลวง
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ได้มีการเคลื่อนศพ นายณรงค์ศักดิ์ มายังศาลาพ่วงจินดา วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเพื่อบำเพ็ญกุศลและสวดพระอภิธรรม ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โกศแปดเหลี่ยมฉัตรเบญจา โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
ซึ่งคณะทำงาน ผู้ใกล้ชิดท่านผู้ว่า ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อปี 2561 ท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ เริ่มมีอาการป่วย ขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด อยู่ที่จังหวัดเชียงราย แต่ด้วยภารกิจงานที่มีมาก จึงยังไม่ได้เข้ารับการรักษา
พอเข้าสู่ ปี 2562 ขณะที่ท่านเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ ที่จังหวัดลำปาง อาการของท่านผู้ว่า เริ่มทรุด และร่างกายส่งสัญญาณว่าอาการป่วย เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น
ช่วงปลายปี 2563 ท่านผู้ว่าเข้ารับการรักษาเนื่องจาก มีภาวะเลือดจาง แพทย์จึงทำการรักษาพร้อมกับการส่องกล้องด้วย ปรากฏว่า แพทย์ได้วินิจฉัยพบเชื้อมะเร็ง ที่กำลังแพร่กระจาย แต่ท่านผู้ว่าก็เลือกที่จะเก็บเรื่องราวนี้ไว้โดยไม่อยากบอกใคร ในเรื่องสุขภาพหรือโรคที่ตัวเองเป็น
ทว่า อาการป่วยของท่านผู้ว่า เริ่มทรุดตัว คนใกล้ตัวจึงนำท่านผู้ว่าส่งรักษาในโรงพยาบาล ครั้งนี้ท่านผู้ว่าอาการหนัก จนต้องเข้ารับการผ่าตัดตับ 1 ครั้ง และผ่าตัดลำไส้ 1 ครั้ง
หลังจากเข้ารับการผ่าตัดครั้งนั้น ท่านผู้ว่าก็มีการรักษาสุขภาพมาเรื่อยๆ กระทั่ง ปี 2564 ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ที่จังหวัดปทุมธานี อาการป่วยเหมือนจะดีขึ้น และสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างปกติ
ช่วงเวลา 2 ปี ที่ท่านผู้ว่าได้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ก็สามารถทำงานได้อย่างปกติ แต่เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ท่านผู้ว่าต้องเข้ารับการรักษาด่วนที่โรงพยาบาลศิริราช เนื่องจาก ค่าเลือดเริ่มมีภาวะผิดปกติ แต่ระหว่างการเข้ารับการรักษานั้น ก็ยังทำงานตลอดโดยการสั่งงานผ่านออนไลน์
เข้าสู่วันที่ 15 มิ.ย. 66 กว่า 1 เดือน ที่ท่านผู้ว่าต้องเข้ารับการรักษา ก็ต้องขอแพทย์ออกจากโรงพยาบาล 1 วันเพื่อไปร่วมพิธีแต่งงานของลูกสาวหลังจากเสร็จงาน ก็กลับเข้ามารับการรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลศิริราช
กระทั่งวันที่ 18 มิ.ย. 66 อาการป่วยของท่านผู้ว่า เริ่มกลับมาทรุดหนัก เริ่มมีอาการเบลอ และมีอาการเจ็บปวดตามร่างกาย แพทย์จึงเร่งรักษา โดยการให้มอร์ฟีน เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เมื่อคนรอบข้างเข้าไปเยี่ยม ผู้ว่ามีการตอบสนองได้เพียงการพยักหน้าตอบรับเท่านั้น
เข้าสู่วันที่ 20-21 มิ.ย. 66 ท่านผู้ว่า เริ่มไร้การตอบสนอง มีเพียงการนอนหลับอย่างเดียว
จนกระทั่งเวลา 17.45 น. วันที่ 21 มิ.ย. 66 เครื่องวัดสัญญาณชีพจรของท่านผู้ว่าได้ดับลง แต่สัญญาณชีพก็กลับมาอีกครั้ง แต่กลับมาเพียง 7 นาทีเท่านั้น กระทั่งเวลา 17.52 น. สัญญาณชีพของท่านผู้ว่าก็ดับลงอีกครั้งและนี่เป็นสัญญาณชีพครั้งสุดท้ายของท่านผู้ว่า
ที่มา:sanook.com
