ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ในช่วงเปิดการซื้อขายวันแรก เปิดตลาดที่ 10.50 บาท เท่ากับราคาจองซื้อ ก่อนปรับตัวลดลงต่ำสุด 27.61% มาอยู่ที่ 7.60 บาท
ก่อนหน้านี้ BLC เสนอขายไอพีโอที่ราคา 10.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,260 บาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ 6,300 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนในการนำเงินระดมทุนเพื่อไปขยายโรงงานผลิตยาอาคารใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตราว 200% และลงทุนงานวิจัยพัฒนายาสามัญใหม่ โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้เป็น 2,000 ล้านบาท ในปี 2569
นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย เปิดเผยว่า วันนี้ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง แต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานของ BLC เป็นหุ้นที่ดีและแข็งแกร่ง เชื่อว่าอีกสักระยะหนึ่งราคาหุ้นน่าจะกลับมาได้จากแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโต
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ราคาหุ้น BLC ที่ปรับตัวลดลงมาแรงเช้านี้ สะท้อนการตั้งราคาไอพีโอของ BLC ที่อยู่ในระดับสูงหรือไม่ นางสาวสุวิมล ให้ความเห็นว่า การตั้งราคาเสนอขาย คิดจากราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในกลุ่มผู้รับประกับการจัดจำหน่าย (underwriter) ที่ได้ร่วมกันวิเคราะห์ไว้ มีส่วนลดแล้ว 30-40% เพราะฉะนั้นคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องการตั้งราคา
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตปีละ 200 ล้านบาท จากปี 2565 มีรายได้ 1,299.52 ล้านบาท และมีแผนลดต้นทุนให้ต่ำลง เพื่อทำให้มีความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรสุทธิตั้งเป้าให้มีการเติบโตอย่างน้อยปีละ 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ด้านเภสัชกรสุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC เปิดเผยว่า ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นบริษัทด้านบริการ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล หรือร้านขายยา แต่บริษัทที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิตยาเหมือน BLC มีค่อนข้างน้อย
โดย BLC เป็นผู้ผลิตยาขนาดใหญ่ มีพนักงานเยอะ และผลิตภัณฑ์หลากหลาย เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า BLC ไม่ใช่บริษัทใหม่ แต่เป็นบริษัทที่ประกอบการมานาน ผลิตภัณฑ์ของเรามีทั้งขายในประเทศไทย และส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ทำให้เมื่อจะเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในตลาดหลักทรัพย์จะสามารถทำได้ค่อนข้างยาก
และเชื่อว่าในอนาคต BLC จะเป็นบริษัทที่เป็น Benchmark ของอุตสาหกรรมผลิตและจำหน่ายยา และเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายยาจะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกจำนวนมาก ประกอบกับเชื่อว่าผลสะท้อนของนักลงทุนในอนาคต น่าจะเข้าใจบริษัทที่เป็นธุรกิจผลิตยาจริงๆ มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวถามว่าการเติบโตของบริษัทเป็นอย่างไร เภสัชกรสุวิทย์ ตอบว่า ให้ไปดูในหนังสือชี้ชวน เพราะเรามีคาดการณ์ไว้ตามแผนธุรกิจอย่างชัดเจน ว่าปีนี้เราคาดการณ์ว่าประมาณเท่าไร อีกอันเราก็จะเห็นบทวิเคราะห์ มีราคาเป้าหมาย ถ้าถามผม ผมก็บอกว่าที่นักวิเคราะห์เขาเขียน ยอดขายหรืออะไร อันนั้นมันเป็นอะไรที่เราทำได้อยู่แล้ว.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/