รอง ผบ.ตร. แจงกรณี ตำรวจโพทะเล ออกศาลออกหมายเรียก ส.ว.กิตติศักดิ์ ยืนยันมีหลักฐานชัดเจน หากหมายเรียกในครั้งแรกไม่มาก็จะดำเนินการตามขั้นตอนการขอหมายจับ ปัดไม่ใช่เกมการเมือง คดีทำมานานก่อนจะมีการเลือกตั้ง
จากกรณีชายชุดดำบุกยึดวัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร และ บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายพระสงฆ์ คนงานของวัด และไวยาวัจกรที่อยู่ในกุฏิ เจ้าอาวาสวัดบางคลานได้รับบาดเจ็บหลายราย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมา ตำรวจ สภ.โพทะเล ได้ขออนุมัติศาลพิจิตรเพื่อออกหมายจับนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. แต่ศาลให้ตำรวจออกเป็นหมายเรียก โดยมอบหมายให้ทาง สภ.โพทะเล ไปดำเนินการต่อไป โดยต่อมา นายกิตติศักดิ์ ได้ออกมาชี้แจง ยืนยันยังไม่รู้ว่าถูกออกหมายเรียก พร้อมให้ความร่วมมือ โดยปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งชายชุดดำ คาดเป็นเกมการเมืองหวังดิสเครดิต
ที่สโมสรตำรวจ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 พ.ค. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว 21 คน ติดตามจับกุมได้หมดแล้ว และจากการซักถาม บอกว่ามีผู้ใช้ให้เข้าไปก่อเหตุ ทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมขอศาลจังหวัดพิจิตรออกหมายจับผู้ใช้ (ผู้สั่งการ) ศาลได้พิเคราะห์แล้วว่า ผู้ที่ถูกขอออกหมายจับมีหลักฐานที่พักชัดเจน เป็นหลักแหล่ง จึงเปลี่ยนให้ออกหมายเรียกแทน ซึ่งจะให้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.โพทะเล ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
ต่อข้อถามว่า หลักฐานอะไรทำให้ตำรวจมั่นใจไปขอหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่า ไม่สามารถบอกได้ เพราะอยู่ในสำนวน แต่ยืนยันมีหลักฐานชัดเจน หากหมายเรียกในครั้งแรกไม่มาก็จะดำเนินการตามขั้นตอนการขอหมายจับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้น เพราะก่อนหน้านี้ ผู้ถูกออกหมายเรียกมีประเด็นในเรื่องการโหวตไม่โหวตรับนายกรัฐมนตรี โดยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง เพราะคดีดังกล่าว ตนเองได้รับมอบหมายให้ดำเนินการมาตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งอีกด้วยซ้ำ ส่วนการตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ จะต้องไปตั้งคณะกรรมการกลางร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งทางจังหวัดในการร่วมกันตรวจสอบทรัพย์สิน หากพบว่าทรัพย์สินหายจะดำเนินคดีต่อและสืบต่อว่าทรัพย์สินหายไปไหน.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
