สุดเศร้าเผาศพน้องอ้อมถูกลวงฆ่า สามีวอนตร.ตามหาคนหาย ไม่ต้องรอ 24 ชม.

สุดเศร้าเผาศพน้องอ้อมถูกลวงฆ่า สามีวอนตร.ตามหาคนหาย ไม่ต้องรอ 24 ชม.

เผาแล้วศพน้องอ้อม เซลส์สาวที่ถูกฆาตรกรโหดลวงไปขืนใจก่อนลงมือฆ่า บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า สามีวอนตำรวจช่วยตามหาคนหายทันทีไม่ต้องรอครบ 24 ชั่วโมง ไม่เชื่อคนร้ายนำโทรศัพท์ภรรยาไปทิ้ง ด้านสาวเพื่อนสนิทวอนประหารฆาตกร เพราะกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศมาแล้วถึง 6 คดี

เวลา 10.00 น. วันที่ 4 เมษายน 66 บรรยากาศ งานศพของน้องอ้อม เซลล์สาวที่ถูกนายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ ผู้ต้องหาลวงไปฆ่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา โดยวันนี้มีบรรดาญาติและเพื่อนน้องอ้อมได้เดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจที่วัดป่าบง ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนดการเวลา 12.15 น. เคลื่อนศพน้องอ้อม ไปยังสุสานป่าช้า บ้านป่าบง

นายอำนาจ เกษประเสริฐ สามีน้องอ้อม กล่าวทั้งน้ำตาว่าวันนี้จะได้ส่งภรรยาไปอยู่บนสวรรค์แล้ว อยากบอกให้น้องอ้อมไปสบายไม่ต้องห่วงอะไร โดยเฉพาะลูกสาวตนจะดูแลให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องทางคดีก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย ตนไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ต้องหา นายณัฐพล คนที่สังหารน้องอ้อม แต่ตั้งข้อสังเกตว่าคำรับสารภาพ ที่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าคือคำโกหก เพราะมีการวางแผนมาอย่างดี แต่คนตายพูดไม่ได้ ก็ขอความเป็นธรรมให้น้องอ้อมด้วย และแม้ว่าผู้ต้องหาจะถูกจับ ถูกตั้งข้อหาที่มีโทษสูงสุดแล้ว แต่ตนก็อยากให้ลงโทษไปจนถึงขั้นประหารชีวิต เพราะหากจำคุกตลอดชีวิตต่อมาได้รับการลดโทษก็ออกมาเป็นภัยต่อสังคมอีก และเห็นจากข่าวนายณัฐพลก็ดูไม่ได้สำนึกผิดอะไร แถมยังมีสีหน้าที่ไม่สลดเลย ทั้งนี้ส่วนตัวติดใจเรื่องโทรศัพท์ ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเอาไปทิ้ง ตนอยากได้โทรศัพท์ของน้องอ้อมคืน อย่างน้อยก็เก็บไว้เป็นที่ระลึก และอยากรู้ว่านายณัฐพลได้คุยอะไรกับน้องอ้อมก่อนก่อเหตุ

“สุดท้ายนี้อยากขอบคุณทุกกำลังใจที่ช่วยตามหาน้องอ้อมในวันที่หายตัวและส่งกำลังใจมาให้ผมและครอบครัว พร้อมฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องเกี่ยวกับคนหาย ได้พิจารณาถึงความเสี่ยงที่จะมีต่อบุคคลที่สูญหายไปด้วย เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพราะเหตุการณ์ของน้องอ้อมที่หายตัวไปนี้ มีพฤติการณ์ที่ผิดปกติบ่งบอกถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น จึงอยากให้กรณีของน้องอ้อมเป็นตัวอย่างที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการช่วยเหลือติดตามหาคนหายที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมง และวอนขอโซเชียลช่วยตามหาโทรศัพท์ของน้องอ้อมที่หายไปด้วยทางครอบครัวต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่เชื่อว่า ผู้ต้องหาจะโยนทิ้ง แต่อาจนำไปขาย”

ขณะที่ น.ส.น้ำปาย เพื่อนสนิท กล่าวว่าตนเป็นเพื่อนกับน้องอ้อมที่ทำงานเซลส์ด้วยกันมา 3 ปีแล้ว และแทบจะตัวติดกันปีหนึ่งมี 365 วันก็คุยกัน 360 วัน สนิทกันถึงขั้นรู้พาสเวิร์ด รู้เกือบทุกอย่าง วันที่น้องอ้อมหายตัวไป ตนได้ติดต่อที่ศูนย์โทรศัพท์เพื่อติดตามจีพีเอสและเมื่อคนร้ายรับสายจึงพูดถ่วงเวลาไว้เพื่อให้ตำรวจสามารถตามไปถึงที่ได้ทัน แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดูแลประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อให้ดีกว่านี้ หากแก้กฎหมายสามารถตามคนหายได้ทันที น้องอาจมีชีวิตรอดก็ได้

ส่วนผู้ต้องหาขอให้ลงโทษให้หนักจนถึงขั้นประหารชีวิตเพราะมีประวัติทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศมากว่า 6 คดีแล้ว หากออกมาก็เป็นภัยสังคมอีก ทั้งนี้ ทราบมาว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้มีการหลอกล่อเซลส์ที่หางดงเพื่อหวังก่อเหตุเช่นกัน แต่ดีที่เซลล์ไม่หลงกล ส่วนกรณีน้องอ้อมไม่มีใครคาดคิดว่าคนร้ายจะใช้อุบายให้น้องอ้อมขับรถเลยไป ทำให้ต้องเดินเท้าไปหาที่ร้านกาแฟจนเกิดเหตุสลดในเวลาต่อมา ทั้งนี้ อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเซลส์คืองานบริการ ที่ต้องดูแลลูกค้าอย่างดี แต่จากนี้จะมีการหารือหามาตรการป้องกันต่อไป จะไม่มีการออกไปนอกศูนย์ ขอให้ลูกค้าเข้าใจด้วย สำหรับสิ่งที่อยากจะบอกเพื่อน คือถ้าชาติหน้ามีจริงก็ขอให้ได้เจอกันอีก น.ส.น้ำปาย ยังเผยว่า มีเพื่อนเห็นว่าแอคเคาต์ติ๊กต่อกของน้องอ้อมมีการออนไลน์และยังโพสต์คลิปอยู่ จึงเชื่อว่าน้องอ้อมคงกลัวว่าเพื่อนจะเหงาเพราะเป็นคนที่ติดเพื่อนมาก

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,490 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *