แม่ค้าในตลาด เล่านาทีช่วย “ครูต่าย” เหยื่อ “แอม ไซยาไนด์” เป็นลม พบมีอาการมือเท้าเกร็ง น้ำลายฟูมปาก ก่อนเสียชีวิต พร้อมเผย เหมือนพยายามพูดบอกอะไรสักอย่าง แต่พูดไม่ได้
จากกรณี คดีสะเทือนขวัญ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ “แอม ไซยาไนด์” ก่อเหตุวางยาฆ่าชิงทรัพย์ต่อเนื่อง ล่าสุดเหยื่อพุ่งแตะ 20 ศพ หลังเช็กบัญชีธนาคารพบรายชื่อคนโอนเงินตายเพิ่มอีก จากแนวทางสืบสวนพบว่า หลังจากลงมือฆ่าเหยื่อจนเสียชีวิตแล้วสิ่งแรกที่ นางสรารัตน์ มักจะลงมือทำคือการทำลายหลักฐานอำพรางคดีให้ยากต่อการแกะรอย แต่จากพยานวัตถุ ประจักษ์พยาน หลักฐานต่างๆ รวมไปถึงพยานแวดล้อมที่บอกเล่าพฤติกรรมผู้ต้องหา มูลเหตุแรงจูงใจต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นนั้น ล้วนสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อรูปคดีช่วยเพิ่มน้ำหนักให้สามารถเรียงร้อยเรื่องราวแต่ละคดีเชื่อมโยงถึงกันได้เป็นอย่างดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 เม.ย. 2566 ป้าหมอก แม่ค้าขายผักในตลาด ผู้เห็นเหตุการณ์ขณะที่ นางมณีรัตน์ พจนารถ หรือ ครูต่าย เหยื่อรายที่ 6 ของแอมไซยาไนด์ เสียชีวิต เผยว่า ก่อนเกิดเหตุครูต่ายได้เดินมาที่ร้าน บอกว่าขอนั่งก่อนที่จะล้มตัวไปพอดี ซึ่งมีพยาบาลผ่านมาและช่วย CPR โดยมีลักษณะน้ำลายฟูมปาก จากนั้นได้ประสานหน่วยกู้ชีพฯ และรถพยาบาลมาช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล
แต่สิ่งที่ผิดสังเกตซึ่งเห็นได้ชัด คือปกติแล้วครูต่ายจะเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นลูกค้าประจำที่ร้าน ชอบซื้อแครอท บรอกโคลี่ และฟักทอง 1 อาทิตย์ ครูต่ายจะมาซื้อของ 5 วัน เหมือนสนิทกันมาก และชอบหิ้วตะกร้ามาฝากไว้ที่ป้า แล้วก็เดินไปซื้อของ แล้วค่อยเดินวนกลับมาเอาตะกร้าที่ฝากไว้ แต่พอมีข่าวแอมจึงคิดว่าเกี่ยวข้องกัน ตอนนั้นสงสัยมากเพราะตอนที่นอนแน่นิ่งไปน้ำลายฟูมปากออกมาเต็มปาก คิดแค่เพียงอย่างเดียวว่าคนเป็นโรคหัวใจและเป็นลม ทำไมน้ำลายจะต้องฟูมปากด้วยเหรอ
จากการสอบถาม น.ส.ปอม อายุ 44 ปี แม่ค้าขายผัก เผยว่า วันนั้นครูต่ายมาซื้อผักไป 3 กำ แล้วก็เดินไปซื้อของ เมื่อเดินวนกลับมาอีกครั้งครูต่ายบอกว่าจะเป็นลม ตนจึงช่วยพัดให้แล้วหายาดม แต่ยังไม่ทันจะดมก็ล้มตัวใส่ตน ทำให้ล้มไปด้วยกันทั้งคู่ จากนั้นจึงให้ลูกสาวกางผ้ายางออกแล้วช่วย ในช่วงที่ล้มตัวใส่ตน ครูต่ายมีน้ำลายฟูมปากมือเกร็งแข็งคล้ายกับรูปขนมจีบ และเหมือนจะพยายามพูดหรือบอกอะไรสักอย่าง แต่พูดไม่ได้ จังหวะนั้นมีพยาบาลผ่านมาพอดี และช่วยกัน CPR ตนไม่เชื่อว่าแค่เป็นลมจะถึงขั้นเสียชีวิต เพราะร่างกายครูต่ายแข็งแรงมาซื้อของทุกวัน
ทั้งนี้ หลังช่วยครูต่าย รถกู้ชีพโรงพยาบาลมาพอดี น้องปลา อายุ 23 ปี ได้ขึ้นรถไปโรงพยาบาลพร้อมเอาสิ่งของของครูต่ายติดขึ้นไปด้วย โดยพยาบาลบนรถบอกว่าหัวใจหยุดเต้น 2 ครั้งแล้ว ในขณะที่อยู่บนรถ น้องปลาก็ได้มองครูต่ายอยู่ตลอดเวลา โดยเห็นเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องปั๊มหัวใจอัตโนมัติ แต่ก่อนล้มมีลักษณะคล้ายอยากจะโทรหาใคร แต่ยังไม่ได้โทรก็เป็นลมล้มไปก่อน.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/