รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า ปัญหาในระบบสาธารณสุขไทยที่ยังรอการแก้ไข อาทิ การขาดแคลนบุคลากร การกระจายตัวและการสร้างแรงจูงใจ ปัญหาภาระงานและชั่วโมงการทำงานของบุคลากรที่เข้าข่ายเกินภาระงานที่กำหนด รวมถึงความต้องการการสนับสนุนด้านงบประมาณเพื่อวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เป็นต้น เมื่อพิจารณาจากนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองในขณะนี้พบว่านโยบายด้านสาธารณสุขเป็นเพียงแค่ส่วนสอดแทรกเท่านั้นจึงอยากให้พรรคการเมืองหันมาให้ความสนใจและแสดงความชัดเจนต่อการแก้ไขปัญหา เนื่องจากสุขภาพของคนไทยเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ
“ปัญหากำลังคนในระบบสุขภาพควรได้รับการแก้ไข ทุกวันนี้บุคลากรมีภาระงานหนักมาก ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาจากความขาดแคลนและการกระจายตัว โดยเฉพาะพื้นที่ชนบทพบว่าโรงพยาบาลบางแห่งมีแพทย์ไม่เพียงพอ ดังนั้น ปัญหาการกระจายและการกระจุกตัวของบุคลากรทางการแพทย์ จึงเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองและนักการเมืองควรให้ความสำคัญ”
รศ.นพ.ดิลกกล่าวและว่าสิ่งที่พรรคการเมืองควรให้ความสำคัญคือ การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) หรือหลักการสร้างนำซ่อมเนื่องจากมีความคุ้มค่ากับการลงทุนด้านงบประมาณ เพราะการทำให้ประชาชนไม่ป่วยใช้งบประมาณน้อยกว่าการตามไปรักษาเมื่อป่วยแล้ว พรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างการหาเสียงอาจพิจารณาผลักดันนโยบายนี้ควบคู่ไปกับการให้การรักษาที่มีคุณภาพ รวมทั้งการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยต้องไม่ลืมเรื่องความสมดุลระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ผู้ให้บริการกับประชาชนผู้รับบริการ ซึ่งเรื่องนี้ควรผ่านการปรึกษาหารือระหว่างทั้งสองฝ่าย พร้อมรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่ายให้รอบด้าน จึงจะคุ้มค่ากับงบประมาณและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งควรมีนโยบายสนับสนุนการทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อลดการนำเข้าและพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด อย่างไรก็ตามระบบสุขภาพในประเทศไทยเป็นระบบใหญ่ ส่วนตัวเห็นว่าหากพรรคการเมืองสามารถแบ่งนโยบายออกเป็นกลุ่มๆ อย่างชัดเจน เช่น กลุ่มผู้ให้บริการ กลุ่มผู้รับบริการ แล้วให้ความชัดเจนว่าจะทำอะไรกับส่วนนั้นๆ ก็จะช่วยให้ประชาชนตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น.
