วันที่ 3 เมษายน 2566 เวลา 14.30 น. พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ตรงข้ามโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ถนนเพาะนิยม เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวนละตำรวจสายตรวจ191 รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบนายอดิสรณ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านใน ต.นากอก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู นั่งร้องไห้เนื้อตัวสั่น เล่าให้ฟังว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มานอนเฝ้าพี่ชายซึ่งป่วยเนื้องอกในสมอง ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ถึงวันนี้ 19 วันแล้ว พี่ชายจะได้ผ่าตัดวันที่ 6 เมษายน
โดยตนนำเงินเก็บ 8 หมื่นบาทติดตัวมาด้วย เอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายรักษาพี่ชาย เพราะตนต้องซื้อแพมเพิร์ส เปลี่ยนให้พี่ทุกวัน หลังจากขึ้นไปเยี่ยมพี่ชายบนตึกแล้วช่วงบ่ายวันนี้ตนลงมานอนพักผ่อน ในสวนสาธารณหนองประจักษ์ โดยถอดกระเป๋าคาดเอววางไว้ข้างๆ จากนั้นได้โทรศัพท์หาภรรยา ก่อนเผลอหลับไป
พอตื่นขึ้นมาพบว่ากระเป๋าคาดเอวสีเขียวได้หายไป ข้างในมีเงินสด 81,500 บาท บัตรประชาชนของตนและพี่ชาย ซึ่งมือถือซัมซุงที่วางอยู่ข้างกระเป๋าคนร้ายก็เอาไปด้วย
จากนั้นนายอดิสรณ์ ได้ยืมโทรศัพท์ ชาวบ้าน ไปบอกภรรยาที่บ้าน ว่าวันนี้เพลียได้เผลอนอนหลับ ทำให้โดนคนร้ายขโมยกระเป๋าเงินไปหมด ซึ่งภรรยาก็ร้องไห้ นายอดิสรณ์ได้พูดปลอบใจภรรยาว่า อย่าร้องไห้ เดี๋ยวความดันจะขึ้น “เงินทั้งหมดเป็นเงินที่ทำงานรับจ้าง ได้เก็บหอมรอมริบมาไว้เพื่อมารักษาพี่ชายป่วยเนื้องอกในสมอง ซึ่งพี่ชายโดนภรรยาไล่ออกจากบ้าน
ตนขอความเห็นใจจากคนร้าย ไม่มีเงินรักษาพี่ชายแล้ว อยากให้เอาเงินมาคืน ตนไม่มีแม้แต่บาทเดียวที่จะกินข้าวแล้ว”
นางนิตย์ อายุ 51 ปี ชาว ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ผู้เห็นคนร้าย เล่าว่า ตนมาเฝ้าสามีผ่าตัดแขน ตนและญาติได้มานั่งปูเสื่อกินข้าวและลูกชิ้น ห่างจากผู้เสียหายซึ่งปูเสื่อนอนประมาณ 50 เมตร ขณะที่ผู้เสียหายนอนหลับ
ตนเห็นคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างผอม ใส่เสื้อคลุมแขนยาว กางเกงขายาว สวมหมวกแก๊ป สะพายเป้ เดินมาจากฝั่งทางประตูสวนสาธารณะหนองประจักษ์ มาหยุดยืนมองผู้เสียหายนอนหลับ คนร้ายได้หันมาจ้องหน้าตน จึงหลบสายตา นั่งกินลูกชิ้นต่อ ไม่นานผู้เสียหายก็ตื่นขึ้นมาแล้วร้องโวยวายว่าเงินหาย จึงมาวินจักรยานยนต์มาสอบถามและแจ้งจตำรวจ
นางอารีรัตน์ วินจักรยานยนต์หน้าโรงพยาบาล เล่าว่า ผู้เสียหายวิ่งมาขอความช่วยเหลือ หน้าซีด ร้องไห้ว่าโดนขโมยเงินและโทรศัพท์ขณะนอนอยู่ในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ อยากให้แจ้ง รปภ.และตำรวจ ตนจึงแจ้ง รปภ.และโทรแจ้งตำรวจ
จากนั้นก็โทรศัพท์เข้ามือถือผู้เสียหาย โทรติด 2-3 ครั้ง จากนั้นคนร้ายก็ปิดเครื่องมือถือของผุ้เสียหายไป ซึ่งตนขับวินจักรยานยนต์อยู่หน้าโรงพยาบาล ก็พึ่งเคยพบเหตุการณ์นี้
พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้แนะนำผู้เสียหายไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ส่วนตำรวจสืบสวนจะตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อหาเบาะแสคนร้าย เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
ที่มา:sanook