เจ้าของร้านกาแฟ ชี้แจง ภาพตำรวจ-เจ้าหน้าที่เขต ยันไม่ได้มาเบ่ง กินฟรี

เจ้าของร้านกาแฟ ชี้แจง ภาพตำรวจ-เจ้าหน้าที่เขต ยันไม่ได้มาเบ่ง กินฟรี

เจ้าของร้านกาแฟ ชี้แจง ภาพตำรวจ-เจ้าหน้าที่เขต เข้ามาที่ร้าน ไม่ได้มากินฟรี มีการจ่ายเงินตามปกติ ที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แค่ตั้งข้อสังเกต กรณีถูกร้องเรียนเสียงดัง

วันที่ 30 มี.ค. 2566 จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” ได้โพสต์ภาพชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ พร้อมข้อความระบุว่า “แขกไม่ได้รับเชิญ..ความอร่อยที่ไม่เกรงใจใคร คาเฟ่เพิ่งเปิดใหม่ แหล่งกินฟรีของบุคคลบางกลุ่ม วันแรกสวมเครื่องแบบหมวกทองมาเต็มยศ ทำทีตรวจตราความปลอดภัย แล้วพุ่งตรงเดินไปหน้าเคาน์เตอร์ ขายอะไร รสชาติเป็นยังไง ชี้นิ้วสั่งขอลองทานโดยไม่จ่ายเงิน วันถัดมามีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เขตทำทีเดินเข้ามาสำรวจในร้าน แนะนำเรื่องว่าอย่าส่งเสียงดังเดี๋ยวถูกคนร้องเรียนก่อนจะสั่งขนมนั่งกินจนเปรมเสร็จแล้วรีบลุกขึ้นพรวดเอ่ยคำว่าขอบคุณนะครับเดินตีมึนออกจากร้านโดยไม่จ่ายเงิน….

เรื่องจริงในสังคมที่พ่อค้า แม่ค้า คนทำมาหากินมักเจอกันบ่อยๆ ในหลายพื้นที่ ไม่รู้ว่าอดอยากหิวโซมาจากไหนถึงได้ด้านกันเช่นนี้”

ต่อมาผู้สื่อข่าว เดินทางไปยังคาเฟ่แห่งหนึ่ง ย่านธนบุรี ซึ่งเป็นร้านเพิ่งเปิดใหม่ เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้พูดคุยกับ นายเอก (นามสมมติ) อายุ 31 ปี เจ้าของร้าน ทราบว่า ตนเพิ่งมาเห็นเพจดังกล่าว ลงข้อมูลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อเท็จจริงแล้ว สิ่งที่ทางเพจดังกล่าวโพสต์ลงไปนั้นไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เขตมาตรวจตราความเรียบร้อยที่ร้านของตนจริง และสั่งกาแฟกับอาหารทานจริง แต่ชำระเงินตามปกติ ไม่มีเดินออกจากร้านโดยที่ไม่จ่ายเงินแต่อย่างใด ยืนยันว่าข้อมูลที่โพสต์ลงไปในเพจนั้น ถูกปรับแต่งจนเกินความเป็นจริง
ทั้งนี้ เจ้าของร้านยังกล่าวอีกว่า ตนได้นำภาพวงจรปิดดังกล่าวโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวจริง เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่เป็นการโพสต์เนื้อหาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 มี.ค. โดยในวันที่ 26 มี.ค. ตอนประมาณ 1 ทุ่มก่อนจะปิดร้าน มีตำรวจ 1 นาย ไม่ทราบว่ามาจาก สน.ไหน พร้อมเพื่อนที่ไม่ได้เป็นตำรวจอีก 2 คน เดินมาสั่งเครื่องดื่มที่ร้าน ชำระเงินตามปกติ และพูดคุยกันในฐานะลูกค้า ก่อนจะกลับออกไป ต่อมาวันที่ 27 มี.ค. ตอนห้าโมงเย็น มีเจ้าหน้าที่เขต 2 คน เดินทางมาสั่งเครื่องดื่มที่ร้านชำระเงินตามปกติ และพูดคุยกัน โดยเจ้าหน้าที่ก็ถามข้อมูลร้านว่า เปิดเมื่อไหร่ ยังไง ขายอะไร และบอกว่า มีเพื่อนข้าราชการแนะนำมา ก่อนจะบอกว่า ระมัดระวังเรื่องเสียงดังหน่อยนะ เพราะอาจจะถูกร้องเรียนได้ เนื่องจากเขตนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัย แต่หากมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาทางเขตได้ ก่อนจะออกจากร้านไป

ปรากฏว่าในคืนวันเดียวกัน แฟนของตนมาเล่าให้ฟังว่า มีสามีภรรยาคู่หนึ่งเดินเข้ามา ซึ่งตนไม่เคยเห็นหรือรู้จักกันมาก่อน แล้วถามว่า เมื่อวานมีกลุ่มคนเข้ามาในร้านไหม ร้านของตนเสียงดังมาก ช่วงประมาณ 4 ทุ่ม พอดีพวกเขาอยู่บ้านข้างๆ ทั้งๆ ที่ร้านของตนปิด 1 ทุ่ม จึงสงสัยว่า ร้านของตนจะมีเสียงดังได้อย่างไร ตอนเลยตั้งข้อสังเกตโดยนำภาพวงจรปิดไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก เพื่อสันนิษฐานว่า นี่เป็นขบวนการเพื่อทำทีถามว่ามีเรื่องร้องเรียนอะไรใดๆ หรือเปล่า แล้วเรียกเอาค่าปรับจากร้าน วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้เพื่อนๆ ที่เปิดร้านคาเฟ่คล้ายๆ กัน ช่วยกันระมัดระวังและเป็นข้อสังเกต แต่ไม่ได้โพสต์ปรักปรำหรือต่อว่าเจ้าหน้าที่เหล่านี้มารีดไถเงิน หรือหลอกกินฟรีแต่อย่างใด

ปรากฏว่าโพสต์ที่ตนลงไปเป็นโพสต์สาธารณะ มีคนแชร์ถึงหลักพัน เมื่อเห็นเช่นนั้นตนก็เลยตั้งค่าเป็นส่วนตัว แต่ปรากฏว่า มีเพจดังกล่าว มาเอาภาพจากเฟซบุ๊กตนไปใช้ โดยไม่มีการทักมาขอข้อมูลแต่อย่างใด ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า เจ้าหน้าที่มารีดไถหลอกกินฟรี ทั้งที่ไม่ใช่ตวามจริง

นายเอก บอกด้วยว่า ตนอยากจะชี้แจงว่า สิ่งที่เพจดังกล่าวโพสต์ไปนั้นไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ กำลังพูดคุยปรึกษากับเพื่อนที่เป็นนักกฎหมายว่าควรจะทำอย่างไร จะฟ้องดำเนินคดีไหม เพราะทำให้ร้านของตนกับเจ้าหน้าที่เสียหายจากข้อมูลบิดเบือน ส่วนประเด็นที่ร้องเรียนว่า มีร้านเสียงดังนั้น ตนไม่ทราบข้อมูลว่าร้านไหนในย่านนี้ที่เสียงดัง โดยเฉพาะช่วงสี่ทุ่ม เพราะตนปิดร้านกลับบ้านตอน 1 ทุ่ม

พร้อมฝากคนในโลกโซเชียลว่า ขอให้มีวิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนจะแชร์หรือหลงเชื่อ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นความเข้าใจผิด และเกิดความเสียหายกับคนอื่นได้.

ที่มาจาก เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว 2

ผู้นำเสนอข่าว

ยัยแม่มด

Written by:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *