โจรหนุ่มจี้แม่ค้าสาวขายน้ำท่อมริมทางที่ทุ่งสง จ.นครศรีฯ ได้เงินไป 1,200 บาท ไม่พอใจยังล้วงของสงวนผู้เสียหาย ถูกจับตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์-อนาจาร อ้างไม่มีเจตนาลวนลามแค่ล้วงหาเงินที่อาจซุกซ่อนไว้
กรณี นางสาวตา อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย ถูกคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อวอร์มทหาร สวมหมวกกันน็อกสีดำเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบติดแผ่นป้ายทะเบียน บุกเข้ามาใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจี้ชิงทรัพย์ ที่ร้านขายน้ำต้มพืชท่อม ริมถนนสายทุ่งสง-กะปาง หมู่ 3 ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังจี้ชิงเงินจำนวน 1,200 บาท แล้วยังก่อเหตุลวนลาม ใช้มือล้วงอวัยวะเพศของผู้เสียหายอีกด้วย เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 4 มี.ค. 66
ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กะปาง พร้อมด้วยชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้เสียหาย ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายวุฒิชัย จันหุณี อายุ 28 ปี เป็นชาว อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดทุ่งสง ออกหมายจับ เลขที่ 99/2566 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2566 ก่อนจะนำกำลังไปจับกุมที่บ้านแฟนสาวใน อ.ช้างกลาง พร้อมของกลางชุดที่สวมใส่ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ นายวุฒิชัย อ้างว่าโยนทิ้งแล้ว
สอบสวนเบื้องต้น นายวุฒิชัย ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง โดยก่อนก่อเหตุเสพยาบ้า ส่วนเงินที่จี้ชิงทรัพย์ได้จำนวน 1,200 บาท นำไปซื้อยาเสพติดหมดแล้ว นอกจากนี้ยังอ้างอีกว่าที่ล้วงในเป้าผู้เสียหาย ไม่ต้องการลวนลาม แต่ต้องการล้วงหาเงินในตัวผู้เสียหาย เนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายจะซ่อนเงินในเป้ากางเกง
ล่าสุด ช่วงสายวันที่ 23 มี.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะปาง ควบคุมตัว นายวุฒิชัย ผู้ต้องหา ไปประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ ท่างกลางความสนใจของชาวบ้าน ก่อนคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือพ้นจากการจับกุม และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยการขู่เข็ญด้วยประการใดๆ
ขณะที่ นางสาวตา ผู้เสียหาย กล่าวว่า ดีใจที่ตำรวจจับคนร้ายได้ แม้ว่าจะใช้เวลานานกว่า 1 เดือน ยอมรับว่าตอนนี้ยังหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่กล้าอยู่หน้าร้านคนเดียว โดยเฉพาะตอนกลางคืน จะมีแม่อยู่เป็นเพื่อน หากแม่ติดธุระ ตนจะปิดร้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ให้กับแม่ค้าที่ขายของริมถนนให้เพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะตอนกลางคืน หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัย.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
