“นพศิลป์” เร่งปิดคดี แก๊ง ตม.อุ้มรีดชาวจีน จ่อส่งศาลฝากขังพรุ่งนี้

“นพศิลป์” เร่งปิดคดี แก๊ง ตม.อุ้มรีดชาวจีน จ่อส่งศาลฝากขังพรุ่งนี้

“นพศิลป์” ปิดห้องถกเร่งรัดคดี แก๊งตำรวจ ตม.อุ้มเหยื่อรีดทรัพย์ พร้อมนำหนุ่มชัยภูมิสอบปากคำ ในฐานะนายหน้าช่วยจัดทำหนังสือเดินทางให้ชาวจีน พร้อมจ่อซักเกี่ยวข้องกับการพาคนจีนไปสวมบัตร ปชช.หรือไม่ พร้อมจ่อฝากขัง 4 ตำรวจ ขณะที่ พฐ.ลงพื้นที่ตรวจรถก่อเหตุ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 มี.ค. 66 ที่ สน.ดินแดง พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เดินทางมาประชุมกับชุดสืบสวน เร่งรัดคลี่คลายคดีแก๊งตำรวจ ตม.บุกอุ้มเหยื่อไปรีดทรัพย์ โดยมี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.ศูนย์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง (ศท.ตม.) พ.ต.อ.นราวุฒิ รักษาวงศ์ ผกก.สน.ดินแดง และฝ่ายสืบสวน บก.น.1 ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมประชุม

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า เชิญ นายโอภาส ศรียา อายุ 45 ปี ชาวอำเภอหนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ มาสอบปากคำที่ สน.ดินแดง โดยอยู่ระหว่างนำตัวมาจาก จ.ชัยภูมิ จากแนวทางการสืบสวน นายโอภาส เป็นนายหน้าช่วยดำเนินการทำหนังสือเดินทางให้ผู้เสียหายชาวจีน ที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ และเป็นบุคคลที่กลับมาบอกกับผู้เสียหายว่า ไม่สามารถทำหนังสือเดินทางได้ เพราะขาดเอกสารบางส่วน จึงพาผู้เสียหายและล่ามสาวชาวไทยกลับไปเอาเอกสารที่บ้าน ซอยประชาสงเคราะห์ 2 จนเป็นเหตุให้ถูกอุ้มรีดทรัพย์ในที่สุด

รอง ผบช.น.เผยอีกว่า จะต้องมีการซักถามประเด็นว่า มีส่วนรู้เห็นกับคดีอุ้มรีดทรัพย์ครั้งนี้หรือไม่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพาคนจีนไปสวมบัตรประชาชนโดยผิดกฎหมายจริงหรือไม่ เบื้องต้นจากการสอบประวัติพบว่า มีประวัติก่อคดีโชกโชน เคยก่อเหตุอุ้มรีดทรัพย์ นายสุรชัย แซ่ย่าง นักธุรกิจสายการบิน ได้เงินไป 2 ล้านบาทในพื้นที่ สน.โคกคราม เมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 และถูกออกหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 6 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นฯ และเป็นผู้สนับสนุนพนักงานเจ้าหน้าที่ปลอมบัตรประจำตัวประชาชน

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนตำรวจ 4 นาย ที่ควบคุมตัวไว้แล้วก่อนหน้านี้คาดว่าวันนี้จะส่งฝากขังไม่ทัน จึงเลื่อนเป็นฝากขังวันพรุ่งนี้ ภายในกรอบระยะเวลาควบคุมตัว เนื่องจากต้องสอบสวนให้แล้วเสร็จในทุกประเด็น ส่วน พ.ต.ต.จิรภัทร บุญนำ สว.กก.สส.บก.ตม.1 ที่ยังหลบหนี สั่งการให้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักทุกแห่งในพื้นที่จันทบุรี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี พร้อมเน้นย้ำให้ พ.ต.ต.จิรภัทร เข้ามอบตัว มิฉะนั้นตำรวจจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด

ส่วนการตรวจสอบประวัติผู้เสียหายชาวจีน ที่มีการสวมบัตรประชาชนคนไทย ตำรวจตรวจสอบประวัติทั้งชื่อไทยและชื่อจีนแล้ว ยังไม่พบการกระทำความผิด แต่การที่ชาวจีนรายนี้มีการสวมบัตรประชาชนคนไทย และยังคงอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน ต้องขยายผลสืบสวนว่า มีวัตถุประสงค์กระทำผิดกฎหมายหรือไม่ โดยขณะนี้ตำรวจได้ทำแผนผังเครือญาติของคนไทย ที่ถูกนำชื่อไปสวมบัตรประชาชนไว้แล้ว เพื่อจะตรวจสอบว่า เจ้าของชื่อคนไทยยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และผู้เสียหายชาวจีนมีความเกี่ยวข้องอย่างไร เพราะไม่ได้อยู่ในไทยโดยกำเนิดอย่างแน่นอน แต่ได้บัตรประชาชนมาอย่างไร หากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวมบัตรประชาชน จะต้องมีการดำเนินคดีถึงที่สุด

ส่วนภาพที่ปรากฏว่า ด.ต.พีระศักดิ์ หนึ่งในตำรวจที่ก่อเหตุ มีการนำเงินปึกใหญ่ไปมอบให้กับหญิงสาวรายหนึ่งและโพสต์รูปลงเฟซบุ๊ก มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบแล้ว รวมถึงข้อมูลเบาะแสต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในทุกมิติ

ขณะเดียวกันที่ สน.ดินแดง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน หลังตำรวจ สน.ดินแดง ได้ตรวจยึดรถยนต์ของกลาง 2 คัน ประกอบด้วยรถเก๋งมาสด้า รุ่นมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน ฆร 636 กรุงเทพมหานคร ของ พ.ต.ต.จิรภัทร ที่ยังหลบหนี และรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี ทะเบียน ญฎ 3861 กรุงเทพมหานคร ของ ด.ต.พีระศักดิ์ เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม

ที่มา:ไทยรัฐ

ผู้นำเสนอข่าว

ยัยแม่มด

Written by:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *