จากกรณี แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ระบุว่า นักโบราณคดียัน วัตถุโบราณที่ ครูบาไก่ ขุด เป็นของเก๊ เป็นของสร้างใหม่ ที่สำคัญไม่ได้มีอายุ 500-700 ปี ตามที่กล่าวอ้าง พร้อมแคปชั่นว่า “เห็นแล้วก็เพลียใจ เมื่อไหร่มันจะฉลาดกันสักทีนะ ชาวพุทธบางกลุ่มในประเทศนี้ ป.ล. ดิฉันอยากถามไปถึงคณะสงฆ์ธรรมยุตขอนแก่นว่า แบบนี้เข้าข่ายอวดอุตริไหมคะ รบกวนคณะสงฆ์ช่วยสอบอธิกรณ์เพิ่มเติมในกรณีนี้ด้วยค่ะ อ้างฌาน อ้างนิมิต ไม่ได้นะคะ” พร้อมยังแซวด้วยว่า ฝังเมื่อวาน บอกโบราณไว้ก่อน พระพุทธรูปโบราณ ศิลปะท่าพระจันทร์ จบ
นอกจากนี้ แพรรี่ ยังบอกด้วยว่า อยากเตือนนะคะ ว่าปาราชิกมันไม่ได้มีแค่ข้อเดียว ไม่ได้มีแค่เรื่องของการเสพเมถุน การอวดอุตริ อวดคุณวิเศษ ที่ไม่ได้มีอยู่จริงในตัวเอง ก็เป็นปาราชิก พร้อมบอกด้วยว่า ให้เวลา 3 วัน ตอบคำถามมาให้ได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 3 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดป่าโสรโย (วัดป่าบ้านขุมดิน) บ้านขุมดิน ม.4 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยพบว่าที่ศาลาการเปรียญ ซึ่งเป็นที่ตั้งตู้โชว์ และจุดที่เก็บพระพุทธรูป รวมถึงวัตถุโบราณ ที่ พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ ขุดพบ โดยมีชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัด พากันมาชมวัตถุโบราณที่อยู่ในตู้
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังมีการพูดคุยถึงการที่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ กรณีที่มีคนตั้งคำถามถึงครูบาไก่ โดยยืนยันตรงกันว่า ครูบาไก่ ไม่เคยอวดอุตริ และไม่เคยพูดว่า พระพุทธรูปและวัตถุโบราณที่ขุดขึ้นมาได้ เป็นของแท้หรือของจริง เพราะไปตามกิจนิมนต์ของญาติโยม และประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธา
นางอนงค์ อายุ 66 ปี ชาวบ้านที่ติดตาม ครูบาไก่ ไปทุกครั้งที่มีญาติโยมนิมนต์ ครูบาไก่ กล่าวว่า เห็น ครูบาไก่มาตั้งแต่จบ ป.6 มาบวชเณรที่วัด ช่วงบวชเณร ป่วยบ่อย กระทั่งมาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นหลวงพ่อบัวขาว และสถานที่ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยวัตถุโบราณ จึงเชื่อว่าหลวงพ่อบัวขาวมาให้พร จนหายป่วยและตั้งใจปฏิบัติธรรม
จากนั้น ก็จะมีชาวบ้านที่มีญาติพี่น้องป่วย บางคนเป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้ บางคนทำมาหากินลำบาก อาศัยอยู่บ้านไม่ได้ มานิมนต์ เณรไก่ ไปที่บ้าน เพื่อทำพิธีเสริมสิริมงคล ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ซึ่ง เณรไก่ จะบอกกับชาวบ้านตลอดว่า จะดีขึ้นจริงหรือเปล่า และไม่ค่อยมีความสบายใจ เพราะเกรงว่าจะแก้ไขให้ชาวบ้านไม่ได้ แต่ครอบครัวที่นิมนต์ไป มีชีวิตดีขึ้น ทำให้พูดกันปากต่อปาก จนกลายเป็นที่ร่ำลือว่า เณรไก่ หูทิพย์ ตาทิพย์ จากนั้น เณรไก่ จะบอกกับคนที่นิมนต์ว่า ที่บ้าน หรือที่ดิน มีปัญหาอะไร มีอะไรอยู่ใต้ดิน และวาดรูปสิ่งที่อยู่ใต้ดินให้ดู ทั้งยังบอกว่าสิ่งที่อยู่ใต้ดินนั้นจะโผล่ขึ้นมาเวลาใด จะหยิบเอง หรือให้เจ้าของบ้านและญาติพี่น้องหยิบขึ้นมา
นางอนงค์ กล่าวอีกว่า เณรไก่ เป็นเด็กที่กำลังเติบโต แต่เป็นเณรที่ประพฤติปฏิบัติดี ไม่เคยมีเรื่อง หรือสร้างปัญหาให้กับชาวบ้าน จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา ส่วนการขุดในจุดต่างๆ หลายแห่ง ก่อนจะทำการขุด ก็จะมีพิธีไหว้ฟ้าดินก่อนจะทำการขุดทุกครั้ง เมื่อได้พระพุทธรูป หรือวัตถุโบราณนั้น ก็จะถามกับเจ้าของสถานที่ว่า จะเก็บเอาไว้หรือถวายวัด ซึ่งส่วนใหญ่จะถวายวัด เณรไก่ก็จะบอกกับชาวบ้านว่า ห้ามเอาไปเป็นของส่วนตัว เพราะเป็นของแผ่นดิน ให้เก็บไว้ที่วัดให้ชาวบ้าน และลูกหลานได้กราบไหว้
ส่วนกรณีที่มีคนออกมาโจมตี และกล่าวหาว่า อวดอุตรินั้น นางอนงค์ กล่าวว่า ไม่เคยเห็นเณรไก่ หรือครูบาไก่โอ้อวดอะไร และยังเป็นเด็ก เป็นเณร รับกิจนิมนต์ที่ไหน ชาวบ้านจะตามไปดูแลกันจำนวนมาก และเมื่อมีการขุด ชาวบ้านถามก็จะตอบเพียงว่า เป็นพระอะไร ปางอะไร หรือวัตถุโบราณชนิดใด ไม่เคยคุยโม้โอ้อวด อวดรู้ และหากว่าเป็นข่าวแล้ว จะมีหน่วยงานทางราชการมาตรวจสอบว่าของแท้ ของปลอม หรือไม่นั้น ชาวบ้านไม่ปิดกั้น แต่ขอให้มาตรวจที่วัด และตั้งไว้ที่วัดตามเดิม เพราะทุกชิ้นมีคุณค่าทางจิตใจกับชาวบ้าน และเจ้าของสถานที่ที่ขุดพบวัตถุเหล่านั้น
ด้านนางชุติมา อายุ 50 ปี ลูกศิษย์ ครูบาไก่ กล่าวว่า ในเรื่องของการตรวจสอบวัตถุโบราณที่ ครูบาไก่ ขุดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงบวชเณรนั้น มีกรมศิลป์ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน เข้ามาตรวจสอบ เพราะมีคนร้องเรียน
โดยทุกครั้งที่ทำการขุด จะมีการทำทะเบียนประวัติไว้ว่าขุดจากที่ใด ได้พระ หรือวัตถุโบราณชนิดใด จากนั้นก็นำมาไว้ที่วัดโสรโยแห่งนี้ เพื่อลงข้อมูลว่า พระพุทธรูปองค์ใด พบเวลาใด สถานที่ใด ซึ่งก็ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ไปทั้งหมดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่บอกกับชาวบ้านว่า พระที่ ครูบาไก่ ขุดพบนั้น บางชิ้นมีอายุ 300 ปี 200 ปี บ้างก็ 100 ปี ซึ่งชาวบ้านมีมติว่าอยากให้เก็บไว้ที่วัด ให้ชาวบ้านสักการะบูชา
นางชุติมา กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการอวดอุตรินั้น ครูบาไก่ เคยถูกตรวจสอบไปแล้ว เพราะมีการร้องเรียนไปก่อนหน้านี้ ซึ่งพระผู้ใหญ่ที่เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ ก็มองว่าอาจจะเกิดความไม่เหมาะสม ในวันข้างหน้า จึงขอให้ทาง ครูบาไก่ เลิกรับกิจนิมนต์ในการขุดหาพระ ซึ่ง ครูบาไก่ ก็เลิกรับกิจนิมนต์แล้ว
ส่วนการที่มีคนพูดถึง ครูบาไก่ ว่า อวดอุตริ อาจเป็นเพราะคนเหล่านั้นไม่ได้มาเห็นด้วยตัวเอง เหมือนอย่างที่ชาวบ้านที่นี่ประสบพบเจอ ส่วนตัวเองเห็นทุกเหตุการณ์ และพิสูจน์ให้เห็นว่า ครูบาไก่ ไม่ได้ซ่อนพระพุทธรูป หรือ ของโบราณต่างๆ เอาไว้ที่ตัว หรือในจีวร บางครั้งก็มีเจ้าของบ้านเป็นคนขุดและนำขึ้นมาเอง ซึ่งก็เกิดขึ้นหลายครั้ง โดย ครูบาไก่ จะกำหนดจุดว่า พระพุทธรูปหรือของโบราณเรานั้นอยู่จุดไหน และจะต้องขุดความกว้าง ขนาดเท่าไร ความลึกขนาดเท่าไร ก่อนจะให้ลูกศิษย์ ทำการขุดก่อน ดังนั้นจึงเชื่อว่า คนที่วิพากษ์วิจารณ์ ครูบาไก่ เพราะเขาไม่รู้ไม่เห็นด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ครูบาไก่ ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และงดถ่ายภาพ เพราะอยู่ในช่วงปิดวาจา.