นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การดำเนินนโยบายกึ่งการคลังเกี่ยวกับโครงการนโยบายรัฐเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในกรณีที่มีความจำเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนและหน่วยงานรัฐไม่ได้ขอตั้งงบประมาณรองรับไว้ล่วงหน้านั้น ต้องปฏิบัติตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 อย่างเคร่งครัด โดยจะกระทำได้เฉพาะกรณีที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายและอยู่ภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของหน่วยงานของรัฐนั้น และต้องเป็นไปเพื่อ 1.ฟื้นฟูหรือกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.เพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพหรือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน 3.ช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยหรือการก่อวินาศกรรม
“นโยบายกึ่งการคลังเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการคลังที่ทุกรัฐบาลมีการดำเนินการมาโดยตลอด เนื่องจากสามารถช่วยให้รัฐบาลบริหารงานเพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในยามจำเป็นฉุกเฉินเร่งด่วนได้อย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องรักษาวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด โดยจัดสรรงบประมาณเพื่อชดเชยอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้การดำเนินนโยบายกึ่งการคลังเป็นภาระต่อหน่วยงานของรัฐมากจนเกินสมควร ส่งผลให้ยอดคงค้างในปัจจุบันจึงยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้”.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/