รอรัฐบาลใหม่ต่ออายุลดภาษีดีเซล คลังชี้ช่องถ้าไม่ได้ลดเงินเข้ากองทุนน้ำมันแทน

รอรัฐบาลใหม่ต่ออายุลดภาษีดีเซล คลังชี้ช่องถ้าไม่ได้ลดเงินเข้ากองทุนน้ำมันแทน

“สรรพสามิต” ชี้ต่ออายุลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท รอรัฐบาลชุดใหม่เคาะ รับรัฐบาลรักษาการทำไม่ได้แล้ว ติดล็อกรัฐธรรมนูญปี 2560 พร้อมปลอบใจผู้บริโภค อย่ากังวล ถ้าต่ออายุไม่ได้ เพราะใช้วิธีลดเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 5 บาทแทนได้ เตรียม ชง ครม.ใหม่พิจารณา “ภาษีบุหรี่ ภาษีสุราเบียร์-ภาษีสิ่งแวดล้อม”

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างพิจารณาประเด็นกฎหมายตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันสามารถตัดสินใจต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค.2566 เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนได้หรือไม่ หรือต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการ “ผมยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะขยายระยะเวลามาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลได้หรือไม่ได้ ต้องรอฝ่ายกฎหมายไปศึกษารายละเอียดก่อน โดยเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2560”

สำหรับโครงสร้างภาษีในส่วนของกรมสรรพสามิตที่ต้องปรับปรุงและเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่พิจารณา ได้แก่ ภาษียาสูบ ที่กรมอยู่ระหว่างการศึกษาจากการจัดเก็บ 2 อัตราให้เหลืออัตราเดียว ภาษีสุราและเบียร์ ภาษีน้ำมัน ภาษีสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ส่วนการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตในปีงบประมาณ 2566 คงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากมีการลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน โดยช่วง 8 เดือน ปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.2565-พ.ค.2566) จัดเก็บรายได้ได้ 313,629 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 65,730 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา กรมได้ลดภาษีดีเซล 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 158,000 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการพิจารณาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2560 เบื้องต้น พบว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถอนุมัติต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลได้อีกแล้ว นอกจากจะมีผลผูกพันไปยังรัฐบาลชุดใหม่ และขณะนี้ได้มีการรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คนแล้ว ดังนั้น ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ เพราะการจะปรับลดหรือไม่ จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกในประเทศไทย เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ลดลงมาจากเดิม 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 75-76 เหรียญต่อบาร์เรล และขณะนี้ สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มดีขึ้น โดยขาดทุนลดลงจากระดับ 120,000 ล้านบาท เหลือ 60,000 ล้านบาท ดังนั้น กองทุนน้ำมันจะต้องบริหารจัดการรายรับและรายจ่ายเอง เพื่อมิให้กระทบต่อผู้ใช้น้ำมันดีเซล

ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจที่จะดูแลประชาชนโดยการพยุงราคาน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.นี้ เพราะจะยังคงมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ลิตรละ 32 บาทเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม หากการลดภาษีน้ำมันติดข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถขยายเวลาลดภาษีน้ำมันดีเซลต่อไปได้ เนื่องจากรัฐบาลอยู่ในช่วงรักษาการ ประชาชนก็ไม่ต้องกังวล เพราะรัฐบาลยังมีวิธีการดูแลราคาน้ำมันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราภาษี หรือการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง ซึ่งจะต้องดูวิธีการดำเนินการอีกครั้ง และเป็นเรื่องที่สามารถบริหารจัดการได้

“รัฐบาลมีกระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวา สามารถดูแลประชาชนได้ และจะยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ลิตรละ 32 บาทเหมือนเดิม สมมติว่า ไม่สามารถลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาทต่อไปได้อีก กองทุนน้ำมันก็จะต้องลดเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 5 บาท หรือเข้าไปสนับสนุนส่วนนั้นแทน”

ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนน้ำมันยังมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งยังมีวงเงินเหลืออยู่จำนวนมาก และหนี้สินของกองทุนน้ำมันก็ลดลงมาเหลือ 50,000 ล้านบาทแล้ว จากเดิมอยู่ที่ระดับ 100,000 ล้านบาท เชื่อว่ากองทุนจะสามารถบริหารจัดการได้ หากใช้เครื่องมือกองทุนน้ำมันแทนการลดภาษีดีเซล.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,444 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed