นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปี 67 กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับเป้าหมายการส่งออกข้าวของไทยใหม่ ภายหลังจากหารือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวแล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็น 8.2 ล้านตัน มูลค่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 162,360 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่คาด 7.5 ล้านตัน มูลค่า 148,000 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าปี 66 ที่ส่งออกได้ 8.76 ล้านตัน มูลค่า 5,144 ล้านเหรียญ
โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปีนี้ (เดือน ก.ค.-ธ.ค.) จะส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 500,000 ตัน รวมไม่ต่ำกว่า 3 ล้านตัน ขณะที่ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่งออกได้แล้ว 5.08 ล้านตัน มูลค่า 3,304 ล้านเหรียญ หรือ 117,836 ล้านบาท โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 25.12% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 55.50% จากช่วงเดียวกันของปี 65
“ช่วงครึ่งแรกส่งออกได้เกิน 5 ล้านตันแล้ว และคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปีน่าจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 500,000 ตัน ซึ่งผู้ส่งออกประเมินแบบน้อยที่สุด แต่เชื่อว่าน่าจะได้มากกว่านี้”
ทั้งนี้ พบว่าผู้นำเข้าข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้บริโภค เก็บเป็นสต๊อกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร และบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งและเงินเฟ้อ เช่น ฟิลิปปินส์ ที่แนวโน้มนำเข้าสูงถึง 4.70 ล้านตัน อินโดนีเซีย 3.60-4.30 ล้านตัน นอกจากนี้ ผลผลิตข้าวปี 67/68 ของไทยที่จะออกสู่ตลาดในช่วงปลายปีนี้ แนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวไทยมีแนวโน้มลดลงและแข่งขันได้มากขึ้น อีกทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมมือส่งเสริมข้าวไทยในตลาดต่างๆ รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ 36-37 บาทต่อเหรียญ ซึ่งจะทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามมาตรการส่งออกข้าวของอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวในเร็วๆนี้ อีกทั้งยังคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวของผู้ส่งออกข้าว ได้แก่ เวียดนาม ปากีสถาน เมียนมา และกัมพูชา อาจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้น และมีการแข่งขันด้านราคาสูงขึ้น.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/