“ประยุทธ์” สั่ง “อาคม” พิจารณาต่ออายุลดภาษีดีเซล ก่อนมาตรการหมดอายุ 20 ก.ค.นี้ “สุพัฒนพงษ์” ชี้หากไม่ต่ออายุมาตรการนี้ก็ต้องใช้กลไกกองทุนน้ำมันลดราคา โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯสั่งไม่ให้ขึ้นราคาน้ำประปาและพอใจภาวะเงินเฟ้อปัจจุบันของไทยดีที่สุดในอาเซียน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค.66 ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ส่วนจะอนุมัติลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลต่ออีกหรือไม่นั้น คงต้องรอข้อสรุป และถ้าต่ออายุก็ต้องเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาตามกฎหมายก่อน แต่ถ้าไม่สามารถดำเนินการได้ เชื่อว่ายังสามารถใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อมาดูแลราคาน้ำมัน ดีเซลแทนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง ไปหาแนวทางการขยายระยะเวลาการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาทออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.นี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้สั่งการให้กรมสรรพสามิตเร่งหารือฝ่ายกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามนโยบายนายกรัฐมนตรี และประเมินผลกระทบรายได้ของกรมสรรพสามิตด้วย เนื่องจากภาษีน้ำมัน ดีเซล ถือเป็นรายได้หลักของกรมสรรพสามิตทุกการลดภาษีดีเซล 1 บาท จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท ต่ออีก 2 เดือนจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้เพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาในการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ของรัฐบาลรวม 7 ครั้ง กระทบการจัดเก็บรายได้ของรัฐที่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้รวมเป็นเงินถึง 158,000 ล้านบาท มีรายละเอียด ดังนี้
ครั้งที่ 1 วันที่ 18 ก.พ.-20 พ.ค.65 ลดภาษีลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รัฐสูญรายได้ 18,000 ล้านบาท
ครั้งที่ 2 วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.65 ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
ครั้งที่ 3 ช่วงวันที่ 21 ก.ค.-20 ก.ย.65 ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
ครั้งที่ 4 ช่วงวันที่ 21 ก.ย.-20 พ.ย.65 ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
ครั้งที่ 5 ช่วง วันที่ 21 พ.ย.65-20 ม.ค.66 ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รัฐสูญ รายได้ 20,000 ล้านบาท
ครั้งที่ 6 ช่วงวันที่ 21 ม.ค.-20 พ.ค.66 ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 4 เดือน รัฐสูญรายได้ 40,000 ล้านบาท
ครั้งที่ 7 ช่วงวันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.66 ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท
ด้านนายอนุชา บูรพไชยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างการประชุม ครม.ว่าให้กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องไปหาวิธีการลดต้นทุนในการผลิตน้ำประปา เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนต้องจ่ายค่าน้ำประปาสูงขึ้น ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทยให้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคงระดับราคาน้ำประปาให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูวัตถุดิบในการผลิตน้ำประปา และให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาการจัดเก็บค่าธรรมเนียมวางท่อต่างๆ และกระทรวงการคลังไปดูการนำเงินส่งเข้ารัฐและนโยบายการเงินต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการผลักภาระ จากการเพิ่มค่าน้ำประปากับประชาชน ผลสรุปแล้วให้นำเข้าสู่ ครม.อีกครั้ง
นอกจากนี้ นายกฯกล่าวพอใจภาวะเงินเฟ้อของไทยในปัจจุบันที่คลี่คลายลงมาอยู่ในอัตราต่ำที่สุดในอาเซียนโดยปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.5% ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน จากราคาน้ำมันที่ลดลงและค่าไฟที่ปรับตัวลงทำให้เงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศที่เปิดเผยตัวเลขออกมา โดยคาดว่าตลอดทั้งปี 66 จะอยู่ที่ระดับ 1.7 ถึง 2.7%.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/