“2 ศพ” กระบะชนกัน 3 คันรวด เหยียบน้ำมันลื่นเสียหลัก บาดเจ็บอีก 1

“2 ศพ” กระบะชนกัน 3 คันรวด เหยียบน้ำมันลื่นเสียหลัก บาดเจ็บอีก 1

“อุบัติเหตุสลด” ถังน้ำมัน 20 ลิตร ตกกลางถนน กระบะเหยียบเสียหลัก-ลื่นไถลชนกัน 3 คันรวด ตาย 2 ศพ บาดเจ็บ 1 ราย

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 8 ก.ค.66 พ.ต.ท.ชาญฤทธิ์ สุขเจริญ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าใหม่ รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน บนถนนเทศบาลสาย 3 ซอย 1 อ.ท่าใหม่ จ.ระยอง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ ไมตี้เอ็กซ์ สีเขียว ทะเบียนระยอง พลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ริมถนน สภาพพังยับเยิน ภายในรถพบผู้บาดเจ็บ 3 ราย ทราบชื่อคือ นางวรรณา ชำนาญชล อายุ 58 ปี และนายอานนท์ ชำนาญชล อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่รู้สึกตัว ไร้สัญญาณชีพ เจ้าหน้าที่เร่งปั๊มหัวใจช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 คนนั้น ถูกเจ้าหน้านำตัวส่งรักษาที่ รพ. จากการตรวจสอบ ทราบว่าผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน

นอกจากนี้ ใกล้กันยังพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนจันทบุรี สภาพมีรอยเฉี่ยวชน ตัวถังด้านหน้าได้รับความเสียหาย จอดอยู่ 1 คัน ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ผก 7514 จันทบุรี จอดอยู่อีก 1 คัน มีนายประชา วงศ์อยู่ อายุ 29 ปี ชาว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นคนขับ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถาม นายปรีชา คนขับรถกระบะ ทะเบียน ผก 7514 จันทบุรี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนขับรถตามหลังรถกระบะของผู้ตายมาห่างๆ จากนั้นรถกระบะที่วิ่งนำหน้ารถผู้ตาย ได้เหยียบเข้ากับน้ำมันที่หกเรี่ยราดอยู่บนถนน จนลื่นเสียหลักหมุนหลายตลบ ก่อนพุ่งชนกับรถผู้ตายจนเสียหลักมาเฉี่ยวรถตน จากนั้นก็พุ่งไปชนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ข้างทางจนล้ม แล้วพุ่งไปชนป้ายบอกชื่อซอยจนขาดกระเด็น ก่อนพลิกคว่ำหลายตลบ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน นายประทีป วิชัย อายุ 59 ปี พลเมืองดี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเห็นถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร ตกอยู่บนถนน แต่ไม่รู้ว่าใครทำตกและตกตอนไหน เห็นแต่เพียงฝาถังเปิดออก ส่วนน้ำมันข้างในก็ไหลกระจายไปทั่วถนนบริเวณนั้น ซึ่งมีรถหลายคันวิ่งมาเหยียบ แล้วเกิดลื่นเสียหลัก แต่โชคดีที่ไม่มีการเฉี่ยวชนกันขึ้น จนกระทั่งมีผู้โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน เพื่อประกอบสำนวนในการสอบสวน ก่อนแจ้งข้อหากับผู้กระทำผิด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,444 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed