จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพกล้องวงจรปิดขณะที่คนร้ายขโมยจยย.พร้อมระบุข้อความว่า “ขออนุญาตแอดมินค่ะ รบกวนฝากท่านใดพบเห็นบุคลในภาพรบกวนติดต่อกลับด้วยค่ะ เขาได้ขโมยรถจักรยานออกไปทางซอยสามัคคี ท่านใดพบเห็นช่วยแจ้งเบาะแสหน่อยนะคะ หายมาหลายคันแล้ว หายบ่อยมากค่ะ จับตัวไม่ได้ซักทีรบกวนช่วยหน่อยนะคะเดือดร้อนมากค่ะ”
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์วันเกิดเหตุวันที่ 1 ก.พ. 66 เวลา 13.30 น. พบคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อยืดสีดำ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ เดินเข้าไปในซอย หลังจากนั้นผ่านไปไม่ถึง 5 นาที คนร้ายปั่นจักรยานที่ขโมยออกมาแล้วหายเข้ากลีบเมฆ
วันนี้( 8 ก.พ. 66 ) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุบริเวณ ซ.แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 6 หรือซอยหลังโรงเรียนปากเกร็ด ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบ น.ส.อมลวรรณ มาตา อายุ 42 ปีผู้เสียหาย ซึ่งเปิดเผยว่าจักรยานคันดังกล่าวใช้มานานกว่า 20 ปี เเล้ว เบื้องต้นเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
น.ส.อมลวรรณ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนขี่จักรยานคู่ใจมาทำงานตามปกติ โดยจอดรถจักรยานมาไว้ที่หน้าปากซอยบ้าน หลังจากนั้นก็ไปทำงานและกลับจากที่ทำงานประมาณ 17.00 น. ปรากฎว่าไม่พบจักรยานที่จอดไว้แล้ว ตนจึงเดินทางไปแจ้งความและนำใบแจ้งความไปขอดูกล้องวงจรปิดขอเทศบาลนครปากเกร็ด พบคนร้ายเดินมาจากซอยวัดกู้แล้วเข้ามาที่ซอยบ้านตน เดินมามองหลังจากนั้นก็เดินเข้ามาขี่จักรยานของตนออกไปจากซอย คนร้ายก่อเหตุเวลา 13.00 น. ซึ่งเป็นกลางวันเเสกๆ ตนจอดจักรยานตรงนี้เป็นประจำอยู่แล้วทุกวัน เป็นจักรยานเสือหมอบจำยี่ห้อไม่ได้ ซื้อมาจากคนรู้จักมาในราคา 1,500 บาท ซึ่งตนใช้จักรยานคันนี้มาตั้งแต่อายุ 18 ปี จนถึงตอนนี้อายุ 42 ปีแล้ว รู้สึกเสียดาย เสียใจและเสียความรู้สึก ที่ถูกขโมยไปเป็นเวลาตอนกลางวัน
ก่อนหน้านี้ตนเคยถูกคนร้ายขโมยจักรยานไปแล้ว 1 ครั้ง ขณะที่ล็อคโซ่เอาไว้ก็ยังถูกขโมย ไม่คิดว่าจะมาโดนก่อเหตุซ้ำ ซึ่งตอนเกิดเหตุตนก็ได้ถามคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่ามีผู้ชายขี่รถจักรยานออกไปแต่จำหน้าไม่ได้ คนในซอยถูกขโมยกันบ่อยมาก ตอนนี้ตนเดือดร้อนที่ต้องเดินเข้าเดินออกภายในซอย ตนไม่กล้าซื้อจักรยานคันใหม่แล้วเพราะกลัวว่าจะโดนขโมยอีก ทางตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้และกำลังไล่กล้องวงจรปิด ซึ่งวันนี้ตนก็ได้ทราบข่าวมาจากผู้เสียหายอีกรายว่าคนร้ายรายนี้ได้ก่อเหตุซ้ำอีกแล้ว คนร้ายใช้วิธีเดิมในการก่อเหตุและใช้เส้นทางเดิม ตนอยากฝากถึงคนร้ายว่าไม่อยากให้ไปก่อเหตุแบบนี้อีกเพราะช่วงนี้หาเงินลำบากมาก และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือเพราะตนเดือดร้อน ถึงจะเป็นแค่จักรยานแต่ก็ยังเป็นเครื่องมือการทำมาหากินของตน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด อยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย แล้วจะรีบเร่งดำเนินการตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา:
สาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี
ข่าวความมั่นคงออนไลน์