สกลนคร ผู้เสียหายถูกเจ้าหน้าที่ อบต.อ้างฝากสอบบรรจุเป็นข้าราชการท้องถิ่นได้ ทยอยแจ้งความเอาผิด เผยเป็น 2 ผัวเมียหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้สูงถึง 1,700,000 บาท ขณะที่ผู้ว่าฯ ยันไม่นิ่งนอนใจ สั่งดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญากับผู้ก่อเหตุ
จากกรณี เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 มีชาวบ้านใน อ.พรรณานิคม และ อ.พังโคน จ.สกลนคร รวมตัวกันกว่า 40 คน เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.พรรณานิคม ว่าถูกเจ้าหน้าที่ อบต.ช้างมิ่ง ตำแหน่งรองปลัด อบต. หลอกลวงว่าสามารถฝากเข้าเป็นข้าราชการท้องถิ่นได้ โดยจะต้องจ่ายเงินให้รายละ 500,000-600,000 บาท มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเกือบ 40 คน เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งนายยรรยง พรมศร นายอำเภอพรรณานิคม ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ท้องถิ่นอำเภอ, นายก อบต. และตัวของรอง ปลัด อบต.ช้างมิ่ง คือนางสุภารัตน์ อัคพิน เข้ามาสอบภาม จนทราบว่ามีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี และอยู่ระหว่างการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ยังมีผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความอีกจำนวนหนึ่ง
โดย รอง ปลัด อบต.รายนี้ยอมรับกลางที่ประชุมว่าตนเองเรียกรับเงินจริง และไม่สามารถช่วยให้สอบเข้ารับราชการได้ ซึ่งเงินทั้งหมดส่วนหนึ่งได้ส่งไปให้คณะทำงานของปลัดกระทรวงแห่งหนึ่งเกรดเอ โดยที่ตนได้รับค่าตอบแทนรายละ 50,000 บาท โดยการเจรจาทั้งหมด นายอำเภอพรรณานิคม ได้สั่งให้บันทึกเสียงไว้ และทำบันทึกว่า รอง ปลัด อบต.ได้รับเงินจริง โดยแยกเป็นรายๆ ไป แต่ละคนยอดไม่เท่ากัน คือตั้งแต่ 450,000 จนถึง 1,700,000 บาท ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ความคืบหน้าของเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 นางสุภาภรณ์ กุลวงษ์ และนายไพสิทธิ์ กุลวงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 387/109 ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.พรรณานิคม และเข้ายื่นหนังสือต่อ สำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อให้เอาผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ รอง ปลัด อบต.รายนี้
โดยผู้เสียหายได้เล่าถึงพฤติกรรมในการหลอกลวงว่า ครั้งแรกมีเพื่อนแนะนำ ว่าสามารถฝากงานเข้าสอบเข้ารับราชการได้ ทั้ง 2 คน และอ้างว่าเคยทำมาแล้ว 3 ครั้ง สร้างความไว้ใจ จึงโอนเงินให้หลายครั้ง โดยนางสุภาภรณ์ สอบในตำแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ ส่วนนายไพสิทธิ์ สอบในตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปและจัดการ
ทั้งนี้ มีการเรียกรับอยู่เรื่อยๆ รวมเงิน 2 คนสามีภรรยา โดนเรียกรับไปจำนวน 1,700,000 บาท ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เรื่องนี้ นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้รับรายงานแล้วและไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญากับผู้ก่อเหตุต่อไป
ขณะที่ นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ กล่าวว่า ในบันทึกการยอมรับที่ทำขึ้น และการบันทึกเสียงในห้องประชุม สามารถเอาผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยได้ น่าสงสารผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ต้องเดือดร้อนหาเงินมาใช้หนี้ งานก็ไม่ได้ทำ ซวยจริงๆ
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/