เปิดสถิติเด็กหายเพิ่มสูงขึ้นในรอบ 4 ปี

มูลนิธิกระจกเงาจับมือตำรวจ ปคม. และ กก.ดส. เปิดสถิติเด็กหายเพิ่มสูงขึ้นในรอบ 4 ปี พร้อมเตือนภัยเด็กหายก่อนวันเด็กแห่งชาติ

วันนี้(12 ม.ค. 66) มูลนิธิกระจกเงา ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) , กองทะเบียนประวัติอาชญากร และกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์และการเฝ้าระวังภัยเด็กหาย

นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เผยว่า สถิติรับแจ้งเด็กหาย ของมูลนิธิกระจกเงา ปี 2565 มีจํานวนทั้งสิ้น 251 ราย ถือว่าเพิ่มสูงขึ้นในรอบ 4 ปี โดยสูงกว่าปี 2564 ถึง 25% สาเหตุหลักคือเด็กที่สมัครใจหนีออกจากบ้าน รองลงมาคือกลุ่มเด็กที่มีพัฒนาการช้า หรือป่วยทางจิตเวช และถูกลักพาตัว

โดยเฉลี่ยอายุของเด็กที่หายออกจากบ้าน มากที่สุดคือช่วง อายุ 11-15 ปี รวม 157 ราย รองลงมาคืออายุ 16-18 ปี รวม 67 ราย และช่วงแรกเกิดถึงสิบขวบ รวม 28 ราย ทั้งนี้ ช่วงอายุ 11-15 ปี เป็นกลุ่มมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นช่วงวัยรุ่นหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยกรุงเทพฯ มีเด็กหายมากที่สุด

สำหรับแนวโน้มสถานการณ์เด็กหาย พบว่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ปี 2565 มีสถิติรับแจ้งเด็กหายเพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มวัยรุ่นอายุ 11-15 ปี ถือว่ามีความเสี่ยงในการตัดสินใจหนีออกจากบ้าน โดยเฉพาะเด็กที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัว ทำให้เด็กไปให้ความไว้วางใจเพื่อนหรือคนที่เพิ่งรู้จักในโลกออนไลน์ มากกว่าคนในครอบครัว

พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. กล่าวเด็กหายเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม แม้จะสมัคใจออกจากบ้านเองก็ตาม ย่อมเกิดความอันตรายรอบด้านทั้งล่วงละเมิดทางเพศ หรืออาจตกไปเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ตามที่มูลนิธิกระจกเงา ได้รายงานสถานการณ์เด็กหายเมื่อปีที่ผ่านมา มีกรณีที่เด็กถูกลักพาตัวไปเป็นเครื่องมือในการขอทาน โดย ปคม. ร่วมกับ กก.ดส. และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้การช่วยเหลือ เด็กชายจีโอ โดยผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์ชักชวนเด็กไปกินขนมและเที่ยวเล่น จนเด็กเกิดความไว้วางใจ และพาเด็กไปเร่ขอทานในที่สถานที่สาธารณะ

ด้านพ.ต.ต.จักรี นารีผล สารวัตร กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กล่าวว่า กรณีเคสที่เข้าช่วยเหลือ เด็กชายจีโอ พบว่าตัวผู้ก่อเหตุ ถือว่า เป็นผู้กระทำความผิดซ้ำ เพราะเคยมีคดีพรากเด็ก ในท้องที่ สน.มักกะสัน มาแล้ว ขอฝากย้ำเตือนไปยังผู้ปกครองในการเฝ้าระวังเด็กโดยเฉพาะช่วงอายุ 4-8 ขวบ จะมีความเสี่ยงสูงสุดในการถูกลักพาตัว ปัจจัยเสี่ยงสูงสุด คือ การที่ผู้ปกครองปล่อยเด็กวิ่งเล่นตามลำพัง

ด้าน พ.ต.อ. ชัยวัฒน์ บูรณะ ผู้กำกับการ ฝ่าย 2 กองทะเบียนประวัติอาชญากร กล่าวว่า ได้ใช้กระบวนการวาดภาพสเก็ตช์เด็กหายให้มีอายุเทียบเท่าปัจจุบัน โดยใช้หลักสากลคือเด็กหายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ยังตามหาไม่พบ จะทำการสเก็ตช์ภาพเพิ่มอายุ ทุก 2 ปี ส่วนเด็กหายที่มีอายุเกิน 18 ปี จะทำการ สเก็ตช์ภาพทุก 5 ปี ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ลักษณะใบหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลง ภาพสเก็ตซ์ในส่วนนี้จะใช้ภาพเดิมประชาสัมพันธ์คู่กันเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เพิ่มโอกาสที่พลเมืองดีสามารถจดจำคนหายได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันได้สเก็ตซ์ภาพเด็กหายร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา มากกว่า 10 ราย

โดยในวันนี้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ได้เปิดตัวภาพสเก็ตซ์ เด็กหายรายล่าสุด คือ นายธีรวุฒิ หรือน้องกระติ๊บ อายุขณะหาย 16 ปี หายตัวไประหว่างขึ้นรถไฟไปโรงเรียนที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2561 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยปัจจุบันน้องกระติ๊บจะมีอายุครบ 20 ปี จึงได้สเก็ตซ์ภาพสำหรับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อติดตามตัว

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. ฝากไปยังผู้ปกครองทุกท่านว่า วันเด็กที่จะถึงนี้ให้ช่วยกันดูแลบุตรหลานให้ดี หากพลัดหลง ควรจํารูปพรรณของลูก เช่นส่วนสูง ตําหนิ หรือเสื้อผ้าที่ใส่ และควรสอนให้ลูกรู้ว่าหากพลัดหลงให้เจอกันที่จุดไหน ทั้งนี้หากเกิดการสูญหายและค้นหาไม่เจอจริงๆให้รีบโทรแจ้ง 1191 ทันทีโดยไม่ต้องรอครบ 24 ชม.