“ผู้การเต่า” ลงดาบเด้ง 42 ตำรวจทางหลวง เอี่ยวส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก เข้ากรุ ศปก.บก.ทล. ภายในวันนี้ เผยมีตั้งแต่ระดับรองผู้กำกับลงไปถึงประทวน และจ่อเชือดรอบ 2 ยศสูงกว่านี้ ไม่จบแค่ 42 รายนี้แน่นอน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. 66 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. กล่าวถึงความคืบหน้าการลงนามคำสั่งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทางหลวง ที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ว่า ขณะนี้คณะทำงานได้รวบรวมรายชื่อทั้งหมดส่งให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ยืนยันว่าจะลงนามแล้วเสร็จภายในวันนี้ โดยเป็นข้าราชการตำรวจยศตั้งแต่รองผู้กำกับการลงไป จนถึงชั้นประทวน ประมาณ 42 นาย ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ ศปก.บก.ทล. ก่อน โดยยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นตำรวจจากท้องที่ใดบ้าง ส่วนจะมีตำรวจยศสูงกว่านี้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น เชื่อว่ามี แต่เป็นของหน่วยงานอื่น ซึ่งคณะทำงานของ ปปป. จะทยอยสืบสวนขยายผลต่อไป
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ยืนยันคณะทำงานขยายผลสืบสวนมาโดยตลอด ไม่ได้นิ่งดูดายกับการแก้ไขปัญหา การสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจะดำเนินการไปเรื่อยๆ คนไหนมีพยานหลักฐานจะดำเนินการไป คนไหนถูกพาดพิงแต่ผู้ประกอบการยังไม่กล้าให้การเป็นลายลักษณ์อักษรก็ว่าไป แต่ตำรวจจะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยจะมีคำสั่งในการดำเนินการออกมาเรื่อยๆ รวมถึงจะมีการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือถูกพาดพิงเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกแน่นอน เพราะเชื่อว่ายังไม่จบแค่ตำรวจ 42 นายนี้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานมายื่นให้เพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับขบวนการรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนและส่วยสติกเกอร์ ได้มีการมอบหมายให้คณะทำงาน บก.ปปป. ดูแลแทน ตนมีหน้าที่ดูแลคดีของตำรวจทางหลวง ดำเนินการแยกกันคนละส่วน แต่ยังมีการประสานข้อมูลกันตลอด ซึ่ง บก.ปปป. จะเป็นหน่วยงานหลักในการสืบสวนขยายผล ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมีคำสั่งให้ใช้กำลังตำรวจอย่างเต็มในการคลี่คลายสถานการณ์ และสร้างกองบังคับการตำรวจทางหลวงขึ้นมาใหม่ ให้เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน
“ส่วนกรณีรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนที่นายอัจฉริยะบอกว่าหายไปนั้น ตอนนี้ตนเองก็ยังสับสน และยังไม่มีความชัดเจนว่ารถของกลางอยู่ที่หน่วยงานใด แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังพูดไม่ตรงกันและยังไม่มีความชัดเจน จึงยังไม่อยากด่วนสรุปตอนนี้ แต่ได้ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนร่วมกับกรมสรรพสามิต และประสานข้อมูลกันให้มีความชัดเจนก่อน และขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวล ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย” รักษาราชการแทน ผบก.ทล. กล่าว
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/