“หน่วยอรินทราช 26” เปลี่ยนแผน ยิงแก๊สน้ำตาเข้าบ้าน “สารวัตรคลั่ง” แต่ถูกยิงสวนออกมากว่า 20 นัด ทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด “รองต่อ” จึงได้สั่งให้ลูกน้องห้ามใช้กำลังโดยเด็ดขาด ให้รอมีทีท่าอ่อนลง เพราะปัญหาเกิดจากจิตเวช ซึ่งยังคงใช้การเจรจาเกลี้ยกล่อมเป็นหลัก
จากกรณีเกิดเหตุ สารวัตรสันติบาลคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า บริเวณบ้านมั่นคง 2 ซอยจีระมะกร เขตสายไหม ล่าสุดทางตำรวจ สน.สายไหม พร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษสันติบาล และหน่วยอรินทราช 26 รวมถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขมิมล รองผบ.ตร., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้เดินทางเข้าพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อประเมินสถานการณ์ด้วยตนเอง และสั่งปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว
ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขมิมล รองผบ.ตร. เผยว่า จากการประเมินสถานการณ์เวลานี้ พฤติกรรมของ สารวัตรกานต์ ไม่ใช่ภัยคุกคาม ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความรุนแรง จึงได้สั่งให้ลูกน้องห้ามใช้กำลังโดยเด็ดขาด ขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงาน และรอให้พฤติการณ์ของ สารวัตรกานต์ มีท่าทีอ่อนลงก่อน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุเกิดจากปัญหาส่วนตัวเสียส่วนใหญ่ ประกอบกับปัญหาทางจิตเวชที่เป็นอยู่เเล้ว และปัญหาความกดดันในหมู่บ้าน จึงเป็นจุดที่ทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งหรือไม่ จึงอยากฝากถึง สารวัตรกานต์ ขอให้ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเข้ามาช่วย ไม่ได้เข้ามาทำร้าย อยากให้ออกมาคุยกัน พร้อมฝากถึงชาวบ้านว่าขอความร่วมมือ ยังไม่อยากให้กลับเข้าพื้นที่ จนกว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แบบเบ็ดเสร็จ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในชั้นนี้ยังคงใช้การเจรจาเกลี้ยกล่อมเป็นหลัก ขณะนี้ได้ให้พี่ชายของสารวัตรกานต์เข้ามาทำการเกลี้ยกล่อม แต่ก็ยังไม่เป็นผล โดยสารวัตรกานต์ยังคงเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน และมีการเปิดเพลงฟัง ส่วนอาวุธปืนที่สารวัตรกานต์ใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่ทราบขนาด แต่พบว่าเป็นอาวุธปืนสั้น และยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนกี่กระบอก
18.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอรินทราช 26 เริ่มยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในบ้านหลังเกิดเหตุ และเกิดการตอบโต้ โดยสรรวัตรกานต์ได้ยิงปืนสวนออกมาจากบ้านพักกว่า 20 นัด ทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด.