ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัว นายสุวรรณ โปวังสา แพะคดียาบ้าของกลางเกือบ 2 แสนเม็ด เจ้าตัวเดินทางมายื่นเรื่องขอเยียวยาที่สำนักงานยุติธรรม จ.อุดรธานี หลังถูกจับอยู่ในเรือนจำกลางอุดรธานี 21 วัน หลังจากนี้จะกลับไปทำงานที่ จ.อยุธยา และต่อสู้คดี
ภายหลังนายกฤษฎา โลหิตดี หรือทนายโนบิและนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก ได้พานางวาสนา โปวังสา อายุ 47 ปี พร้อมลูกสาว ร้องขอความเป็นธรรมกับว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขารมว.ยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีนายสุวรรณ โปวังสา อายุ 42 ปี สามี ถูกจับในคดีครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จำนวน 198,000 เม็ด จากเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564 ตำรวจ สภ.นาข่า ได้ล่อซื้อยาบ้าที่ป่าท้ายหมู่บ้านโนนยาง ต.กุดสระ อ.เมืองอุดรธานี พอถึงเวลานัดหมาย พ่อค้าได้ยาบ้าได้ขี่ จยย.นำยาบ้าใส่กระสอบมาส่ง แต่ไหวตัวทันได้ทิ้งรถและยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ดหลบหนี เมื่อตรวจสอบผู้ครอบครองรถ ได้ออกหมายเรียก 2 ครั้ง แต่ไม่ได้รับ และออกหมายจับ ก่อนเข้าจับกุมนายสุวรรณ โปวังสา ผู้ครอบครองรถ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ จ.บึงกาฬ ซึ่งนายสุวรรณ ยืนยันว่าซื้อรถให้ลูกสาวใช้ และลูกสาวนำไปให้แฟนหนุ่มใช้ ส่วนตัวเองทำงานอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีการสแกนนิ้วมือเข้าทำงาน และการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นหลักฐาน
ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นิวัตร กุลศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี และ ร.ต.อ.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เดินทางไปอยุธยา เพื่อสอบปากคำพยานทั้งนายจ้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลและเพื่อนร่วมงานที่นายสุวรรณทำงานอยู่ ได้รับการยืนยันว่าวันเกิดเหตุนายสุวรรณทำงานอยู่ที่โรงงาน โดยพนักงานสอบสวนได้เร่งสอบปากคำพยานและจะมีการสรุปสำนวนคดี และยื่นต่อศาลเพื่อให้ศาลมีการไต่สวนคดีอีกครั้ง
จากนั้น เวลา 18.30 น.วันที่ 16 มีนาคม 2566 ทนายโนบิและทีมทนายความ ได้เดินทางมายังเรือนจำกลาง จ.อุดรธานี เพื่อรับตัวนายสุวรรณ หลังจากศาล จ.อุดรธานี มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว นายสุวรรณ ทันทีที่นายสุวรรณเดินออกจากเรือนจำ ดีใจจนน้ำตาไหลก้มกราบลงพื้น เพื่อขอบคุณทุกคนที่ให้การช่วยเหลือ ร่ำไห้ ที่ศาลท่านเมตตาปล่อยตัวชั่วคราวและได้วิดีโอคอลคุยกับภรรยา และลูกสาวที่ อยุธยา โดยจะพักอยู่ที่บ้านทนายโนบิ
ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มีนาคม 2566 นางวาสนา โปวังสา อายุ 47 ปี และลูกสาวเดินทางมาจากอยุธยา มาพบนายสุวรรณ ต่างโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ เมื่อสอบถามสารทุกข์สุกดิบแล้ว ทีมทนายได้พานายสุวรรณ เดินทางมาพบ พ.ต.ท.นิวัตร กุลศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อสอบปากคำ และมอบหลักฐานหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้นพาไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี เพื่อยื่นหนังสือขอรับเงินเยียวยา หลังจากต้องติดคุกอยู่ในเรือนจำ 21 วัน
นายสุวรรณ เปิดเผยว่า ตนถูกจับและอยู่ในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 รู้สึกดีใจมากที่ได้รับอิสรภาพ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตนมีความหวังอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องออกมา เพราะเป็นผู้บริสุทธิ์ หลักฐานที่ตนมีสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ได้ ทั้งการสแกนลายนิ้วมือเข้าทำงาน การรักษาจากโรงพยาบาล ภาพถ่ายก่อนวันเกิดเหตุ และพยานบุคคล จากนี้ไป จะออกมาพักผ่อนให้ร่างกายแข็งแรง แล้วกลับไปทำงานที่เดิมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเถ้าแก่ก็โทรตามตลอดให้กลับไป
ด้านนางวาสนา เปิดเผยว่า ตอนสามีถูกจับเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ก็ลำบาก ต้องวิ่งเต้นหาทางนำสามีออกมาให้ได้ เพราะเป็นคนคิดมาก ร่างกายไม่แข็งแรง โดยไปกู้เงินมาเป็นค่าใช้จ่าย ไปร้องขอให้ทนายโนบิ และเฮียเปี๊ยกให้ช่วย ต่อจากนี้ไปจะทำงานที่เดิม ดูว่าสามีจะทำงานไหวหรือเปล่า เพราะมีโรคประจำตัว หากไม่ไหวจะพากลับมาอยู่บ้าน รู้สึกดีใจมากที่สามีถูกปล่อยตัว แต่อยู่ต่างจังหวัดมาไม่ทัน เมื่อเดินทางมาถึง จ.อุดรธานี เห็นสามีก็รู้สึกดีใจมาก
ส่วน น.ส.พิม อายุ 27 ปี ลูกสาว เปิดเผยว่า ถึงตอนนี้ยังยืนยันว่า รถจักรยานยนต์อดีตแฟนเป็นคนนำไปใช้ แม่อดีตแฟนบอกว่าเพื่อนของอดีตแฟนนำไปใช้ ส่วนตัวเชื่อว่าต้องใช้รถจักรยานยนต์ร่วมกัน เพราะรถจอดอยู่บ้านอดีตแฟน ไม่ได้นำรถไปอยุธยาด้วย ตอนนี้แนวทางการสืบสวนของตำรวจยังไม่ได้ไปสอบสวนอดีตแฟน ฝากถึงคนที่เอารถจักรยานยนต์ตนไป้ทำความผิด สิ่งที่คุณกระทำไว้ได้กระทบกับครอบครัวตนมากที่สุด มั่นใจว่าอดีตแฟนมีส่วนร่วมในการกระทำผิดในครั้งนี้
นายทวีศักดิ์ สารทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ครอบครัวนายสุวรรณมาปรึกษาเรื่องการเยียวยา จึงให้คำแนะนำว่า ถ้าหากใช้กองทุนยุติธรรมในการฟ้องร้องก็สามารถดำเนินการได้ กองทุนยุติธรรมจะช่วยดำเนินคดีฟ้องร้องให้ โดยจะได้รับค่าเยียวยาวันละ 500 บาท แต่ต้องมีองค์ประกอบในการดำเนินการฟ้องคือ ต้องมีเอกสาร ความยากจน ข้อมูลส่วนตัว พื้นที่อยู่อาศัย ไม่มีศักยภาพในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ เป็นต้น
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/