ตำรวจเร่งไล่ล่า 2 คนร้าย ก่อเหตุถือปืนบุกชิงเงินผู้เสียหาย หลังเบิกเงินจากธนาคาร ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ย่านพัฒนาการ ได้ไป 3.3 ล้านบาท เตรียมเรียกผู้เสียหายสอบปากคำเพิ่มบ่ายนี้ พบมีคนรู้เห็นกับการเบิกเงินเพียง 2-3 คน
กรณีนายยนัย เตชะธนบัตร อายุ 44 ปี เข้าเบิกเงินสด 3.3 ล้านบาท ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ขณะเดินมาขึ้นรถยนต์โตโยต้า รุ่นวิช สีบรอนซ์ ทะเบียน กข 9999 อ่างทอง มีคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ขู่บังคับให้เข้าไปนั่งภายในรถ แล้วหยิบกระเป๋าบรรจุเงินสด 3.3 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 มีรายงานจากตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.ว่า ขณะนี้ขั้นตอนการทำงานของตำรวจ คือ การไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้มาแล้วบ้างบางส่วน จากคำให้การของผู้เสียหาย ทำให้ตำรวจทราบว่า หลังจากที่ผู้เสียหายเบิกเงินสดออกจากธนาคารได้เดินกลับขึ้นรถเก๋ง ซึ่งจอดอยู่ไม่ห่างจากประตูทางออกของธนาคารมากนัก (จากประตูธนาคารก้าวลงบันได เพียง 2 ขั้น ถึงที่จอดรถ) เมื่อถึงที่รถขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินขึ้น คนร้ายก็บุกเข้าประชิดตัวจากด้านหลัง และผลักผู้เสียหายเข้าไปในตัวรถและใช้ปืนจี้ข่มขู่และชิงเงินไป เมื่อคนร้ายได้เงินไปแล้วก็รีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปทางด้านหลัง โดยมีการลากกรวยลานจอดห้างไปด้วย
ขณะที่ผู้เสียหายพยายามขับไล่ติดตามคนร้ายไปถึง ร้านข้าวหมกไก่ ที่อยู่ห่างประมาณ 200 เมตร ก่อนจะคลาดกับคนร้ายที่หลบหนีกลับรถไปทางถนนพัฒนาการมุ่งหน้าขาเข้า
จากการสอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่าการเบิกเงินในครั้งนี้มีผู้รู้เห็นว่าจะมีการมาเบิกเงินจำนวน 2-3 คน โดยผู้เสียหายที่เดินทางมาเบิกเงินสด เป็นลูกจ้างของบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยนายจ้างใช้ให้มาเบิกเงิน เพื่อนำไปใช้ในธุรกิจดังกล่าว และในช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจได้เรียกตัวผู้เสียหาย และเจ้าของบริษัท มาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้ ตำรวจมีข้อมูลว่าขั้นตอนการเบิกเงินสดดังกล่าวจะมีผู้ที่รู้เห็นอยู่เพียง 3 ราย ประกอบกับมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ต้องเรียกมาพูดคุยในรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง
ตำรวจเร่งไล่ล่า 2 คนร้าย ก่อเหตุถือปืนบุกชิงเงินผู้เสียหาย หลังเบิกเงินจากธนาคาร ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ย่านพัฒนาการ ได้ไป 3.3 ล้านบาท เตรียมเรียกผู้เสียหายสอบปากคำเพิ่มบ่ายนี้ พบมีคนรู้เห็นกับการเบิกเงินเพียง 2-3 คน
กรณีนายยนัย เตชะธนบัตร อายุ 44 ปี เข้าเบิกเงินสด 3.3 ล้านบาท ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ขณะเดินมาขึ้นรถยนต์โตโยต้า รุ่นวิช สีบรอนซ์ ทะเบียน กข 9999 อ่างทอง มีคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ขู่บังคับให้เข้าไปนั่งภายในรถ แล้วหยิบกระเป๋าบรรจุเงินสด 3.3 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 มีรายงานจากตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.ว่า ขณะนี้ขั้นตอนการทำงานของตำรวจ คือ การไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้มาแล้วบ้างบางส่วน จากคำให้การของผู้เสียหาย ทำให้ตำรวจทราบว่า หลังจากที่ผู้เสียหายเบิกเงินสดออกจากธนาคารได้เดินกลับขึ้นรถเก๋ง ซึ่งจอดอยู่ไม่ห่างจากประตูทางออกของธนาคารมากนัก (จากประตูธนาคารก้าวลงบันได เพียง 2 ขั้น ถึงที่จอดรถ) เมื่อถึงที่รถขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินขึ้น คนร้ายก็บุกเข้าประชิดตัวจากด้านหลัง และผลักผู้เสียหายเข้าไปในตัวรถและใช้ปืนจี้ข่มขู่และชิงเงินไป เมื่อคนร้ายได้เงินไปแล้วก็รีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปทางด้านหลัง โดยมีการลากกรวยลานจอดห้างไปด้วย
ขณะที่ผู้เสียหายพยายามขับไล่ติดตามคนร้ายไปถึง ร้านข้าวหมกไก่ ที่อยู่ห่างประมาณ 200 เมตร ก่อนจะคลาดกับคนร้ายที่หลบหนีกลับรถไปทางถนนพัฒนาการมุ่งหน้าขาเข้า
จากการสอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่าการเบิกเงินในครั้งนี้มีผู้รู้เห็นว่าจะมีการมาเบิกเงินจำนวน 2-3 คน โดยผู้เสียหายที่เดินทางมาเบิกเงินสด เป็นลูกจ้างของบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยนายจ้างใช้ให้มาเบิกเงิน เพื่อนำไปใช้ในธุรกิจดังกล่าว และในช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจได้เรียกตัวผู้เสียหาย และเจ้าของบริษัท มาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากขณะนี้ ตำรวจมีข้อมูลว่าขั้นตอนการเบิกเงินสดดังกล่าวจะมีผู้ที่รู้เห็นอยู่เพียง 3 ราย ประกอบกับมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ต้องเรียกมาพูดคุยในรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง
มีรายงานอีกว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ติดต่อผู้เสียหายไปได้ขอเลื่อนเข้าพบไปก่อน เนื่องจากช่วงบ่ายวันนี้ไม่สะดวก
ที่มา:ไทยรัฐ
