ลุง 66 น้ำตาร่วง โดนแก๊งคอลฯหลอกโอน 4 หมื่น เก็บมาทั้งชีวิต

ลุง 66 น้ำตาร่วง โดนแก๊งคอลฯหลอกโอน 4 หมื่น เก็บมาทั้งชีวิต

ลุงวัย 66 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นตำรวจขู่พัวพันคดียาเสพติด หลอกโอนเงิน 4 ครั้งรวมประมาณ 4 หมื่นยอมรับเสียใจมาก เป็นเงินที่ทำงานเก็บมาเกือบทั้งชีวิต เผยชาวบ้านต่างจังหวัดไม่ค่อยรับรู้ข่าวสาร ยังมีคนหลงกลโดนหลอกจำนวนมาก

วันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพี เรืองศักดิ์ อายุ 66 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 1 บ้านนายางกลัก ต.นายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.วุฒิชัย ยืมสูงเนิน สว.(สอบสวน) สภ.เทพสถิต หลังถูก มิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลอกลวงให้โอนเงินจำนวนกว่า 43,000 บาท

โดยนายสุพี ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ได้มีสายโทรศัพท์เป็นเสียงผู้หญิง โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในจังหวัดขอนแก่น แจ้งว่าตนได้นำเด็กผู้ชายไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น และได้ทิ้งเด็กอายุประมาณ 3 ปี มาทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล โดยมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเด็กถูกทำร้ายร่างกายมาได้รับบาดเจ็บ จึงได้ทำการรักษาและ ส่งมอบเด็กให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามหาญาติของเด็ก

จากนั้น มิจฉาชีพได้ทำทีว่าได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับให้ นายสุพี พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ซึ่งมิจฉาชีพก็ได้โอนสายไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้พูดคุยสอบถามกัน เมื่อพูดคุยกับตำรวจคนที่ตนกำลังคุยด้วยได้อ้างว่า ตนมีสิ่งของผิดกฎหมาย โดยมีการพูดคุยกันสักระยะ ก่อนที่ผู้ชายปลายสายจะให้ตนแอดไลน์เพื่อติดต่อพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องรูปคดี อ้างเป็นนายตำรวจในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น พูดชี้แจงเชิงข่มขู่ พร้อมกับให้ตนโยกเงินในบัญชีทั้งหมด โอนไปยังบัญชีของเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบ หากไม่โอนจะมีความผิดและบัญชีธนาคารจะถูกอายัด

ด้วยความกลัวเงินในบัญชีจะถูกอายัด เพราะเป็นเงินเก็บจากประกอบอาชีพเป็นพนักงานเก็บน้ำประปาในหมู่บ้าน สะสมเก็บเงินมาเกือบทั้งชีวิต จึงเอาสมุดบัญชีเดินทางไปที่ร้านค้าที่รับโอนเงิน ทำธุรกรรมโอนเงินไปยังบัญชี นายเดชา สิทธิชัย (บัญชีม้า) จำนวน 2 ครั้ง เป็นเงินรวมกันประมาณ 30,000 บาท นอกจากนี้ยังมีคนเข้ากับบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. และธนาคารกสิกรไทย ธนาคารละกว่า 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 43,000 บาท โดยรายชื่อในบัญชีของมิจฉาชีพจะไม่มีรายชื่อซ้ำกัน

จนกระทั่งผ่านไปหลายวัน รู้ตัวว่าถูกหลอก จึงปรึกษาญาติและเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เทพสถิต ระหว่างแจ้งความแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้พยายามโทรศัพท์มาหาตน ให้โอนเงินที่เหลือในบัญชีไปเพิ่ม ซึ่งหลังเกิดเหตุยอมรับว่าเสียใจมากกับการโดนหลอกลวง เพราะเป็นเงินที่ทำงานมาทั้งชีวิตก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านในเขตพื้นที่เดียวกันถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน 2 ราย ทราบว่าเป็นเงินกว่า 100,000 บาท จึงอยากจะฝากเตือนชาวบ้าน ไม่อยากจะให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ พร้อมฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินการกับพวกมิจฉาชีพ เหล่านี้ให้ถึงที่สุด

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,490 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *