รวบหนุ่มจีน 8 รายบนรถทัวร์ ตรวจค้นเจอมือถือ 91 เครื่อง คาดเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์

รวบหนุ่มจีน 8 รายบนรถทัวร์ ตรวจค้นเจอมือถือ 91 เครื่อง คาดเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจรวบหนุ่มจีน 8 รายบนรถทัวร์ ตรวจค้นเจอมือถือ 91 เครื่อง พบกำลังเดินทางไปยัง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน คาดเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลบหนีเพื่อหาฐานที่ตั้งใหม่

วันที่ 20 ก.พ. 68 พล.ต.ต.ภิรมย์ สวนทอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จว.ยโสธร, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เพชรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร, พ.ต.ท.วรวุทธิ์ ท่านมุข รอง ผกก.สภ.เมืองยโสธร, เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน สภ.เมืองยโสธร เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีนและไทยได้ 10 คน

ประกอบด้วย 1. นายพลวัฒน์ อายุ 31 ปี ชาวนครราชสีมา 2. นายมงคล อายุ 47 ปี ชาวอำนาจเจริญ ทั้งคู่เป็นคนขับรถโดยสารประจำทาง และชายจีนอีก 8 คน พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 91 เครื่อง, รถโดยสารประจำทางกรุงเทพฯ-เขมราฐ 929-8 ม.4ข(พ) ทะเบียน 16-5400 กรุงเทพมหานคร, โน้ตบุ๊คยี่ห้อแอปเปิ้ล 1 เครื่อง และกระเป๋าเดินทาง โดยสามารถจับกุมได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดยโสธร เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 19 ก.พ. 68

พฤติการณ์ในการจับกุม สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.วรวุทธิ์ ท่านมุข รอง ผกก.สส.สภ.เมืองยโสธร ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ยโสธร แจ้งว่ามีการลักลอบนำบุคคลต่างด้าวผ่านมายังพื้นที่จังหวัดยโสธร โดยใช้รถยนต์โดยสารประจำทางกรุงเทพฯ-เขมราฐ 929-8 ม.4ข(พ) ทะเบียน 16-5400 กรุงเทพมหานคร โดยจะมาจอดพักรถที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดยโสธร ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง

เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบ นายพลวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายมงคล ผู้ต้องหาที่ 2 แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์โดยสารดังกล่าว จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการขอเข้าตรวจสอบรถยนต์โดยสาร พบผู้ต้องหาที่ 3-10 อยู่ภายในรถโดยสารคันดังกล่าว

จากการสอบพบว่าเป็นบุคคลต่างด้าว สัญชาติจีน จึงได้ตรวจสอบหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) พบว่าผู้ต้องหาที่ 3-4 พาสปอร์ต (Over Stay) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ 3-4 ผ่านล่ามแจ้งให้ทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และผู้ต้องหาที่ 5-10 พบว่าไม่มีหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) แสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ 5-10 ผ่านล่ามว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางอนุญาต” จากนั้นจึงได้ทำการค้นภายในกระเป๋าเป้สะพายที่ผู้ต้องหา 3-10 โดยสารมาภายในรถยนต์โดยสารพบโทรศัพท์จำนวน 91 เครื่อง

สอบถามผู้ต้องหาที่ 1-2 ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับรถยนต์โดยสาร โดยได้สลับหน้าที่กันและได้จอดรับผู้ต้องหาที่ 3-10 ที่แยกบ้านนา อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีปลายทางที่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ส่วนผู้ต้องหาที่ 3-10 ให้การผ่านล่ามว่ากำลังพากันเดินทางไปทำงาน ส่วนโทรศัพท์มือถืออ้างว่าไม่ใช่ของพวกตนเอง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาโดยกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1-2 ว่า “ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ผู้ต้องหาที่ 3-4 “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ผู้ต้องหาที่ 5-10 “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางอนุญาต” พร้อมนำตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวจีนทั้งหมด 8 ราย อาจมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เนื่องจากพบโทรศัพท์มือถือจำนวนมากและกำลังเดินทางไปยัง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งคาดว่าบุคคลกลุ่มนี้กำลังจะหลบหนีเพื่อหาฐานที่ตั้งใหม่เพราะขณะนี้ส่วนกลางระดมกวาดล้างอยู่.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

4,005 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed