พนักงานสอบสวน 7 สภ. ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับคดี เข้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติม “แอม ไซยาไนด์” ในเรือนจำ อีก 4 ข้อหา รวมกับที่แจ้งแล้ว 2 ข้อหา เป็น 6 ข้อหา ทั้งหมด 15 คดี น่าจะถึง 80 ข้อหา ด้านบิ๊กโจ๊ก เชื่อแอมรัตน์จะไปรับสารภาพในชั้นศาล ให้ลดโทษจากประหารชีวิต เหลือษจำคุกตลอดชีวิต
จากกรณี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาคดีวางยา ฆาตกรรม จำนวน 15 คดี มีผู้เสียชีวิต 14 ศพ รอดชีวิต 1 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ นางสรารัตน์ หรือ แอม ถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ปลอมแปลงและทำลายเอกสารหลักฐาน
วันที่ 12 มิ.ย. เวลา 09.30 น. ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทั้ง 7 จังหวัดที่เกี่ยวข้องในคดี ได้แก่ นครปฐม, สมุทรสาคร, กาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี, มุกดาหาร และอุดรธานี ได้เดินทางมาเข้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นางแอม ในความผิดตามมาตรา 236 ผู้ใดปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขาย สิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้ (ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
มาตรา 289 (6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น (ต้องระวางโทษประหารชีวิต)
มาตรา 289 (7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ (ต้องระวางโทษประหารชีวิต)
มาตรา 339 ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย (ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท) และความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย โดยคดีทั้งหมด 15 คดี ใน 7 พื้นที่ รวมแล้วประมาณ 80 ข้อหา
ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เดินทางมาที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อติดตามารแจ้งข้อหาเพิ่มเติม พร้อมให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้เดินทางมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนางสรารัตน์ ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งข้อหาไปแล้วคือ ร่วมกันใช้เอกสารปลอม ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง และปลอมปนอาหาร ปลอมปนยา เพื่อปกปิดข้อเท็จจริง จากการปรึกษากับทางอัยการจะมีการแจ้งข้อหาที่ยังไม่ได้แจ้งกับนางสรารัตน์ ทางตำรวจจึงจะได้นำมาแจ้งในวันนี้ ซึ่งจากข้อหาหลัก จะมีการแจ้งข้อหาซ้ำๆกัน ยกตัวอย่างเช่น มี 6 ข้อหา ก็จะแจ้งแต่ละคดี ๆ ละ 5-6 ข้อหา คล้ายๆกัน คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ฆ่าผู้อื่นโดยตระเตรียมการ ข้อหาปลอมปนอาหาร หรือ วางยา รวมถึงเรื่องปลอมแปลงเอกสารและชิงทรัพย์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในคดีนี้ตำรวจมีหลักฐานเชื่อมโยงทั้งหมด จะมีกี่ข้อหาก็ตาม จากประสบการณ์ของตน มีอัตราโทษประหารชีวิตทั้งหมด เพียงการกระทำเดียวก็ประหารชีวิตแล้ว ไม่จำเป็นว่าจะต้องแจ้งกี่ข้อหา ส่วนเหตุลดโทษ ตนเชื่อว่านางสรารัตน์จะไปรับสารภาพในชั้นศาล ให้ลดโทษจากประหารชีวิต เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ตนไม่สามารถตอบแทนศาลได้ ตราบใดที่ศาลยังไม่พิจารณาถึงที่สุดผู้นั้นจะยังบริสุทธิ์ แต่การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนมีเพียงพอที่จะส่งฟ้องผู้ต้องหา หลังจากที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ก็จะมีการเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวนทั้งหมด เพื่อส่งพนักงานอัยการภายในวันที่ 16 มิ.ย.นี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขอชมเชยคณะพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนทั้งหมด สามารถสรุปสำนวนคดีส่งอัยการฝากขังผัดที่ 4 ทำให้อัยการมีเวลาดูสำนวนอย่างละเอียดอีก 3 ผัด เพื่อให้เวลาอัยการกลั่นกรองสำนวน ถึงความรอบคอบในสำนวนคดี ตนไม่มีความหนักใจในเรื่องนี้ หลังจากนี้จะต้องดำเนินคดีกับผู้ซื้อ ผู้จำหน่าย เทรดเดอร์ โรงงานต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่รัฐ หากพบการกระทำความผิด เกี่ยวกับกรมโรงงานต้องดำเนินการตามขั้นตอน แต่หากไม่พบก็ไม่มีความผิด อีกส่วนคือ เรื่องของเว็บการพนันที่ต้องดำเนินคดีกับผู้เล่นทั้งหมด ทั้งต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน และดำเนินคดีกับเจ้าของเว็บพนันอีกด้วย เพื่อให้สำนวนคดีเสร็จสิ้นการสอบสวนทุกรูปแบบ
ในส่วนของการแจ้งข้อหา พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ รองออฟ อดีตสามี และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ หรือทนายพัชจะมีการส่งสำนวนให้อัยการพร้อมกับสำนวนคดีของ นางสรารัตน์ ภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
