ผอ.โรงเรียน ที่ อ.สามง่าม พิจิตร ยืนยันทางโรงเรียนไม่มีนโยบายให้เด็กย้ายโรงเรียน กรณีแม่เด็กหญิงชั้น ม.2 นำลูกไปร้องมูลนิธิปวีณา ถูกรุ่นพี่ ม.3 รวม 5 คน ช่วยกันจับขึงพืดรุมโทรมถ่ายคลิปลงโซเชียล และโรงเรียนขอร้องให้ย้ายลูกไปเรียนที่อื่น ด้าน ผกก.ก็ยืนยันทำคดีเต็มที่ ไม่มีประวิงเวลา แต่คดีเด็กและเยาวชนต้องให้สหวิชาชีพมาร่วมสอบสวน
กรณีนักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอสามง่ามจังหวัดพิจิตร ถูกรุ่นพี่ ม.3 กระทำชำเราช่วยกันจับและรุมโทรมข่มขืน ถ่ายคลิปลงโซเชียล แม่เด็กเห็นถึงกับเป็นลมหมดสติ ต่อมาผู้ปกครองได้นำนักเรียนผู้เสียหายเข้าร้องมูลนิธิปวีณาฯ ให้การช่วยเหลือ พร้อมระบุว่า หลังเกิดเหตุครูได้เรียกผู้ปกครองของ 5 นักเรียนชายที่ก่อเหตุมาเจรจากับแม่ของเด็กผู้หญิง หลังจากนั้นทางโรงเรียนได้แจ้งให้แม่พาลูกย้ายไปเรียนโรงเรียนอื่น ซึ่งแม่คิดว่าไม่เป็นธรรมทั้งที่ลูกสาวถูกกระทำได้รับความอับอายขนาดนี้ทางโรงเรียนยังให้ลาออก
ขณะที่นักเรียนชาย 5 คนที่ก่อเหตุ ทางโรงเรียนก็ให้ลาออกไปเรียนที่อื่นเช่นเดียวกัน ตอนนี้ลูกสาวมีอาการเครียดจัด จะเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่กล้าออกไปไหนเพราะอับอาย แม่กลัวว่าลูกจะคิดสั้น และไม่รู้จะพึ่งใคร จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรม ต้องการที่เรียนใหม่ และติดตามคดีเพื่อให้คนกระทำผิดได้รับโทษ
ล่าสุด วันที่ 24 ม.ค. 66 นายพีรพงศ์ หมอนทอง ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า โรงรียนไม่มีนโยบายให้เด็กออกจากโรงเรียนอยู่แล้ว และยังต้องเยียวยาเป็นพิเศษ โดยจัดครูดูแลเป็นพิเศษ หากจิตใจดีขึ้นแล้วจะมาเรียน ทางโรงเรียนก็จะดูแล หากยังไม่พร้อม ทางโรงเรียนก็จะจัดครูไปที่บ้าน รวมทั้งเรื่องสื่อการสอนและครูแนะแนวไปดูแลสภาพจิตใจ ขอย้ำว่าโรงเรียนยินดีให้เด็กกลับมาเรียนตามปกติ
ด้าน พ.ต.อ.สุเมธ เงินบำรุง ผกก.สภ.หนองโสน จ.พิจิตร เปิดเผยความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองนำนักเรียนชั้น ม.2 ที่ถูกนักเรียนชายกระทำชำเราแล้วถ่าคลิปว่า ทางผู้ปกครองนำผู้เสียหายมาแจ้งความเมื่อ 16 ม.ค. ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามสอบสวนตามขั้นตอน และเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 ม.ค. ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชนทั้ง 5 รายได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาฯ โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งขั้นตอนการสอบสวนคดีเด็กและเยาวชน ต้องให้สหวิชาชีพที่ประกอบไปด้วยนักจิตวิทยา นักสงคมสงเคราะห์ และอัยการเข้าร่วมสอบปากคำ โดยตำรวจได้แจ้งญาติของผู้เสียหายได้ทราบความคืบหน้าของการทำคดีแล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/