ปฏิบัติการชัตดาวน์เครือข่าย “สารวัตรซัว” จับเพิ่ม 30 ราย ยึด 7 พันล้าน

ปฏิบัติการชัตดาวน์เครือข่าย “สารวัตรซัว” จับเพิ่ม 30 ราย ยึด 7 พันล้าน

“กองปราบ” เปิดปฏิบัติการ ชัตดาวน์เครือข่าย “สารวัตรซัว” รอบ 4 ลุยค้น 39 จุดเป้าหมายทั่วประเทศ จับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 30 ราย ยึดทรัพย์สินแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท พบผู้ต้องหารายสำคัญ และคีย์แมนอีก 3 คน ยังหลบหนีอยู่ฮ่องกง เวียดนาม และเกาหลี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 พ.ค. 66 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตํารวจ(สบ 8) ปฏิบัติราชการ บช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก.ปอท.ในฐานะโฆษก บช.ก. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ร่วมกันแถลงผลปฎิบัติการ “ชัตดาวน์เครือข่ายอั้งยี่ มาเฟียพนันออนไลน์ เป็นต่อกรุ๊ป หรือ เครือข่ายสารวัตรซัว ครั้งที่ 4” หลังกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 39 จุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “อั้งยี่, ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันฯ, สมคบฟอกเงิน และ ร่วมกันฟอกเงิน” ได้เพิ่มเติมอีก 30 ราย 

พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ ก.พ. มีการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายดังกล่าวทั้งหมด 4 ครั้ง จากปฏิบัติการทั้ง 4 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 57 ราย คงเหลือผู้ต้องหาบางส่วนที่หลบหนีไปต่างประเทศ 19 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน เงินสด จํานวน 33 ล้านบาท,ที่ดินจํานวน 1,298 ไร่ มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท บัญชีธนาคาร 236 บัญชี มูลค่า 760 ล้านบาท, รถยนต์หรู 15 คัน มูลค่าประมาณ 52,844,000 บาท และเหรียญสกุลเงินดิจิทัลกว่า 100 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดรวมกว่า 7,000 ล้านบาท จากปฏิบัติการที่ผ่านมาจะพบว่าเครือข่ายสารวัตรซัวนั้น ถือว่า เป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ เมื่อมองผลการดำเนินการในภาพรวมจะเห็นว่าคดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลางได้เร่งดำเนินการมาโดยตลอด จนพบว่า เครือข่ายของสารวัตรซัว ถือเป็นเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ของประเทศ มีการก่อตั้งบริษัทที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2559 จนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 61 บริษัท ในจํานวนนี้ มี 7 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจการพนันและผลิตเว็บการพนันออนไลน์ อาทิ บริษัท ไวคอมเมิร์ช อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด , บริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อกรุ๊ป จํากัด, บริษัท โกไลฟ์ จํากัด, บริษัท สน๊อคโค จํากัด, บริษัท สน๊อคโค เทคโนโลยี จํากัด, บริษัท ชาโดว์ฮิวโก้ เอเจนซี่ จํากัด, บริษัท เป็นต่อกรุ๊ป โฮลดิ้ง จํากัด ซึ่งมีหลักฐานความเชื่อมโยงค่อนข้างชัดเจน ว่าเป็นการเปิดบริษัทเหล่านี้ขึ้นมาเพื่ออําพรางปกปิดวิธีการดําเนินการ โดยในปีที่ผ่านมา พบว่าเครือข่ายนี้ มีรายได้มาจากธุรกิจการพนันกว่า 10,000 ล้านบาท

“เมื่อตรวจสอบรายได้ของบริษัทพบว่าบริษัทไม่มีกำไร แต่กลับมีทรัพย์สินถือครองมากเกือบหมื่นล้าน สอดคล้องกับข้อมูลสืบสวนที่พบว่าเครือข่ายเว็บพนันดังกล่าว จะนำเงินที่ได้จากเว็บการพนัน เข้าสู่ระบบบัญชีม้าตามลำดับ ก่อนโอนเข้าบัญชีคนในเครือข่ายเพื่อนำไปแปลงเป็นทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ อาทิ ที่ดินสวนทุเรียนในจังหวัดจันทบุรี กว่า 300 ไร่, สนามกอล์ฟในจังหวัดกาญจนบุรี 400 ไร่, ที่ดินติดริมทะเล บนพื้นที่เกาะกูด, เกาะทะลุ, เกาะสมุย และจังหวัดภูเก็ต เพนท์เฮาส์รามอินทรา ที่จากการตรวจสอบจะพบว่าส่วนใหญ่ผู้ถือครองจะเป็นกลุ่มคีย์แมนในเครือข่ายเว็บการพนันออนไลน์ของสารวัตรซัว ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด” ผกก.3 บก.ป. กล่าว 

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหารายสำคัญอย่างเช่น สารวัตรซัว และคีย์แมนอีก 3 คน จากข้อมูลสืบสวนพบว่า ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ทั้งฮ่องกง เวียดนาม และเกาหลี ขณะนี้ได้มีการติดตามแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหารายสำคัญทั้งหมด และพยายามแกะรอยซึ่งทราบว่าอยู่ที่ไหน แต่ในเรื่องของการประสานการจับกุมต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ยังต้องใช้เวลา แต่สิ่งที่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้คือติดตามยึดทรัพย์สิน ที่ได้มาจากเครือข่ายเว็บพนันทั้งหมด ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดำเนินตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินต่อไป.

ผู้นำเสนอข่าว

Lemon

Written by:

720 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *