ตั้ง “วัชรินทร์” หัวหน้าทีมอัยการ ร่วมสอบคดี “ทนายตั้ม” ฟอกเงินฉ้อโกงเจ๊อ้อย

ตั้ง “วัชรินทร์” หัวหน้าทีมอัยการ ร่วมสอบคดี “ทนายตั้ม” ฟอกเงินฉ้อโกงเจ๊อ้อย

อสส. มีคำสั่งแต่งตั้ง “วัชรินทร์ ภาณุรัตน์” รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมสอบคดี “ทนายตั้ม” ฟอกเงินฉ้อโกงเจ๊อ้อย หลังพิจารณาเห็นว่าเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร

วันที่ 18 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด มีหนังสือถึงกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เรื่องการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมทำการสอบสวนในคดีนอกราชอาณาจักร ในคดีที่นางจตุพร อุบลเลิศ กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

โดยคดีนี้ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด (อสส.) ตามกฎหมายให้อำนาจอัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบหรือมีอำนาจตั้งพนักงานสอบสวน ซึ่งอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 67 ให้พนักงานสอบสวนคนหนึ่งคนใดตามคำสั่ง บช.ก. ที่ 238/2567 และคำสั่ง บช.ก. ที่ 247/2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ทำการสอบสวนคดีอาญาคดีนี้ โดยให้พนักงานอัยการคนหนึ่งคนใดในสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวน ให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. หัวหน้าพนักงานสอบสวน เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจและติดตามเป็นจำนวนมาก มีการนำเสนอต่อสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก และเป็นการกระทำความผิด หลายกรรมต่างกัน เพื่อให้การสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นธรรม

เมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร จึงให้อัยการสำนักงานการสอบสวนเข้าร่วมสอบสวนกับ บช.ก. ร.ต.อ.โชคชัย สิทธิผลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน จึงมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการร่วมทำการสอบสอบกับพนักงานสอบสวน และแต่งตั้งตั้งเจ้าพนักงานคดี เพื่อสนับสนุนการทำงานของพนักงานอัยการ ที่เข้าร่วมสอบสวนคดีอาญาที่ 48/2567 ของกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ดังนี้

ให้ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน, ร.ต.อ.วสันต์ จันทร์อินทร์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 2 ช่วยราชการสำนักงานการสอบสวนปฏิบัติราชการในหน้าที่ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2, น.ส.ทักษอร สุวรรณสายะ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5, น.ส.บุษยภา เมณฑกา อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5, ร.ต.อ.สุวรรณสาม คีรีวิเชียร อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2, นายเทพสิทธิ์ เกียรติเดชปัญญา
อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 เป็นคณะทำงาน โดยให้ ร.ต.อ.สุวรรณสามเป็นเลขานุการด้วย

ให้มีอำนาจหน้าที่ให้ดำเนินการเข้าร่วมทำการสอบสวนในทันที เป็นไปตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 และแนวทางปฏิบัติการสอบสวนว่าด้วยการสอบสวน และงานธุรการเกี่ยวกับการสอบสวน พ.ศ.2560 โดยเคร่งครัด พร้อมให้เลขานุการคณะทำงานรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามให้อัยการสูงสุดทราบเป็นระยะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ มีการโอนเงินในต่างประเทศซึ่งถือเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักร ทางกองบัญชาการสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเห็นว่า เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร จึงเสนอตามขั้นตอนมายังอัยการสูงสุด เพื่อรับเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งกฎหมายให้อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ หรือมีอำนาจตั้งพนักงานสอบสวน ทางอัยการสูงสุดเห็นว่า พฤติกรรมเป็นการกระทำความผิดที่มีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย จึงมีคำสั่งมอบหมายพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และพนักงานอัยการเข้าร่วมการสอบสวนคดีนี้

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,813 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed