ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ปิดล้อมเส้นทางตามล่าตัวผัวโหด จ่อยิงเมียดับคาบ้าน ฉุด “ลูกเลี้ยง” ขึ้นรถหลบหนี ญาติเผย ผู้ตายเพิ่งมาปรึกษาเรื่องลูกสาว เล่าว่าถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนหลายครั้ง
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 13 มี.ค. 2568 พ.ต.ท.สุนทร พิมพ์พันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง รถกู้ชีพโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ พร้อมชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
จุดเกิดเหตุบริเวณชั้นล่างของบ้าน ตรงที่นอนพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อต่อมา น.ส.รัตติยา แสงอินทร์ อายุ 34 ปี แต่งกายใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำกางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาด .38 ยิงเข้าบริเวณหน้าท้อง (ใกล้ลิ้นปี่) 1 นัด และที่ศีรษะข้างซ้าย มีบาดแผลขนาดใหญ่ทะลุท้ายทอย 1 แผล จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.พจนกร กัญจินะ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ทราบ จากนั้นจึงเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ เร่งให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจ CPR ผู้บาดเจ็บ เพราะหมดสติและเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตที่เกิดเหตุ
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 1 ปลอก ตกอยู่บนที่นอน และหัวกระสุนจำนวน 2 นัด ตกอยู่ใต้โซฟา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุคือ นายชัยวสิต แก้วภักดี อายุ 42 ปี ชาว ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ อาชีพเซลล์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็นสามีของผู้ตาย โดยผู้ตายกับผู้ก่อเหตุอยู่ด้วยกันมา 8 ปี มีลูกชาย 1 คน อายุ 10 ปี ส่วนผู้ตายมีลูกสาว 1 คน กับสามีเก่า อายุ 15 ปี และผู้ก่อเหตุกับผู้ตายได้แยกกันอยู่ประมาณ 3 ปี โดยผู้ก่อเหตุได้กลับไปอยู่ที่บ้านเกิด จ.ศรีสะเกษ พร้อมลูกสาว (ลูกเลี้ยง) และลูกชาย ทั้ง 2 คน
ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์ ลูกสาวซึ่งเรียนจบที่ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาหาแม่ที่บ้านที่เกิดเหตุ และบอกเล่าเหตุการณ์ตอนที่อยู่กับพ่อเลี้ยงที่ จ.ศรีสะเกษ ว่าถูกพ่อเลี้ยงล่วงละเมิดหลายครั้ง จนมาวันเกิดเหตุ เวลา 20.00 น. ทางผู้ตายและลูกสาว ได้ไปปรึกษากับ น.ส.รัตติกาล ลิ้มทองทรัพย์ พี่สาวผู้ตาย ถึงเหตุการณ์ที่ลูกสาวได้เล่าให้ฟัง จนมาถึงเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 13 มี.ค. 2568 ผู้ก่อเหตุพร้อมลูกชายอีกคน ได้เดินทางมาถึงที่บ้านเกิดเหตุ แล้วเกิดมีปากเสียงกันกับผู้ตาย จนผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย จำนวน 4-5 นัด ต่อหน้าลูกสาวและลูกชาย
หลังจากนั้นได้บังคับลูกสาวขึ้นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 7 กฆ 9699 กรุงเทพมหานคร ขับหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด เพื่อติดตามล่าตัวผู้ก่อเหตุหรือสามี จนไปพบรถจักรยานยนต์จอดทิ้งไว้ที่บริเวณริมถนนประชาอุทิศ-คู่สร้าง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 ม.
จากนั้นผู้ก่อเหตุได้พาลูกสาวเปลี่ยนใช้รถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน 9 กส 6627 กรุงเทพมหานคร หลบหนีต่อเพื่อมุ่งหน้าไป จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ประสานตำรวจตามเส้นทางเพื่อเร่งไล่ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เพราะกลัวว่าลูกสาวที่ไปด้วยจะได้รับอันตราย
ส่วนทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ และส่วนร่างผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง จากนั้นจะมอบศพให้ญาติแล้วไปดำเนินพิธีกรรมตามศาสนาต่อไป
น.ส.รัตติกาล ลิ้มทองทรัพย์ อายุ 49 ปี พี่สาวคนตาย เล่าว่า เมื่อประมาณ 2 ทุ่ม น้องสาวกับลูกสาว มาคุยเรื่องคนก่อเหตุเคยข่มขืนลูกสาวคนตายอยู่บ่อยครั้ง หลานเพิ่งจะมาบอกแม่เมื่อวันจันทร์นี้เอง เลยคุยกันว่าน้องสาวจะจัดการแจ้งความจับ เราไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุจะมา หลานสาวเป็นลูกของน้องสาว ผู้ก่อเหตุเป็นพ่อเลี้ยง เขาไปอยู่ศรีสะเกษ 3 ปี ไม่รู้ว่าโดนข่มขืนตั้งแต่เมื่อไหร่
ตอนแรกแม่ก็ไปอยู่ด้วย ตอนหลังแม่เขากลับมาอยู่กรุงเทพฯ ส่วนลูกอยู่ที่นั่นปล่อยให้พ่อเลี้ยงเขาดูแล เพราะความไว้ใจ ให้น้องเขาเรียนที่นั่น พอจบ ม.3 ให้ย้ายมาที่นี่ ผู้ก่อเหตุโมโหว่าจะไม่ให้มาอยู่ แต่หลานเคยพูดว่าพ่อมีปืน แม่มาปรึกษาเรื่องว่าจะทำยังไงดี มารู้อีกทีว่าผู้ก่อเหตุมาที่บ้าน ตนจึงรีบเปิดกล้องวงจรปิดในบ้านดู เห็นมันยิงน้องสาว ตนตกใจมาก สติแตกด้วย น้องกลับมายังไม่ถึง 2 อาทิตย์ จะเล่าให้แม่ฟังเมื่อวันจันทร์ ก็เลยแนะนำให้เขาตัดสินใจเพราะเขาเป็นแม่ เขาจะแจ้งความจับสามีเขา แต่ทางผู้ก่อเหตุไม่รู้เรื่อง
ด้าน นางอาภา ปั้นชู อายุ 70 ปี แม่คนตาย เล่าว่า นอนอยู่คนเดียวด้านล่าง เห็นหลานชายเคาะประตู เลยเปิดประตูให้เขา พอเปิดประตูปุ๊บ ผู้ก่อเหตุก็เข้ามายืนตรงหน้าโทรทัศน์ ถามหาลูกสาว เลยบอกลูกสาวว่าผู้ก่อเหตุมา มีการเอาทะเบียนสมรสมาวางให้ แล้วเขาคุยอะไรไม่รู้ เอาปืนมายิงหัวลูกสาวตน ยิงท้องด้วย ตอนแรกลูกสาวอยู่ข้างบน พอลงมาข้างล่าง เขาก็ยิงเลย เขาอยู่ด้วยกันนานแล้ว ผู้ชายทำงานเกี่ยวกับขายอะไหล่รถแถวศรีสะเกษ เขาไปๆ มาๆ มีการจดทะเบียนสมรสกัน มีปัญหาเรื่องหย่า ทะเลาะกันบ่อย ก่อนหน้านี้มีทำร้ายร่างกายเอามีดจี้ ตนก็ห้าม เกือบตาย.
