ตร.เร่งคลี่คดีฆ่ารัดคอสาวขอนแก่นหมกไร่มัน คาดตัดตอน ล้างหนี้ยาเสพติด

ตำรวจเร่งแกะรอยคลี่ปมฆ่ารัดคอสาวขอนแก่นใต้ถุนขนำ ก่อนนำศพหมกไร่มันสำปะหลัง คาดฆ่าตัดตอนล้างหนี้ยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสคนร้ายแล้ว

จากกรณี นางสาวศศิธร บัวมาตย์ หรือ หนุ่ย อายุ 30 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ถูกฆ่าตายทิ้งศพในไร่มันสำปะหลัง บ้านน้ำสามวัง หมู่ 3 ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และมาพบศพในช่วงเย็นวันที่ 19 มี.ค.67 ล่าสุด ผกก.สืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น นำทีมชุดสืบสวนปูพรมค้นหาร่องรอยเบาะแสคนร้าย พบผู้ตายถูกเชือกกระเป๋ารัดคอใต้ถุนขนำในสวนยางพารา ก่อนทำลายหลักฐาน เหลือซิมโทรศัพท์ตกในที่เกิดเหตุ ฝังหมวกกันน็อกระหว่างทางไปจุดทิ้งศพหมกไร่มันสำปะหลัง คาดสาเหตุมาจากฆ่าตัดตอนเรื่องยาเสพติด

ล่าสุดเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เม.ย.567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการสืบสวน สอบสวนหาตัวฆาตรกรโหดฆ่านางสาวหนุ่ย ทิ้งศพหมกไร่มันสำปะหลังในพื้นที่บ้านน้ำสามวัง หมู่ 3 ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่นนั้น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น นำทีมชุดสืบสวนปูพรมหาเบาะแสของคนร้ายในจุดที่พบศพ และบริเวณใกล้เคียงที่พบศพ

โดยทีมสืบสวนได้เข้าไปในสวนยาง อยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 500 เมตร และตรวจสอบบริเวณขนำในสวนยาง ซึ่งชุดสืบสวนยืนยันว่าเป็นจุดลงมือสังหารนางสาวหนุ่ย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนที่ นางสาวหนุ่ยรู้จัก และนัดแนะมาพบที่ขนำในสวนยาง ซึ่งน่าจะมีการพูดคุยกันในเรื่องที่รู้กันเฉพาะบุคคลเท่านั้น ที่บริเวณใต้ถุนขนำ แต่ไม่สามารถพูดคุยหรือตกลงกันได้ คนร้ายจึงใช้หมวกกันน็อกทุบที่ใบหน้าและศีรษะจนนางสาวหนุ่ยสลบหมดสติ จากนั้นคนร้ายลากร่าง นางสาวหนุ่ยออกจากใต้ถุนขนำมาวางที่พื้นดิน แล้วใช้สายกระเป๋าสะพายของนางสาวหนุ่ย รัดคอแล้วใช้ท่อนไม้ฟืนในกองไฟขันชะเนาะสายกระเป๋าที่รัดคอ น.ส.ศศิธร จนขาดใจตาย

จากนั้นคนร้ายเอาถุงปุ๋ยในสวนยางมาห่อศพแล้วดึงเอาเสื่อที่ปูอยู่บนขนำมาห่อทับซ้ำ แล้วก็อุ้มศพเดินออกจากสวนยาง เดินเลาะข้ามฝั่งถนนไปยังไร่มันสำปะหลังประมาณ 500 เมตร แล้วทิ้งศพในไร่มันสำปะหลัง พร้อมทั้งนำหมวกกันน็อกที่ใช้ทุบทำร้ายนางสาวหนุ่ย จนพลาสติกที่บังลมด้านหน้าแตกร้าว ฝังดินในไร่มันสำปะหลังแล้วนำหญ้าและใบไม้มาปกคลุมเอาไว้

ขณะเดียวกัน คนร้ายก็ทำลายหลักฐานโทรศัพท์มือถือผู้ตาย แต่ทำซิมหล่นที่พื้นใกล้ขนำในสวนยางที่เป็นจุดสังหาร ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายยืมเพื่อนมาก็ยังไม่พบ ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะนำไปทิ้งในบ่อน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุและมีหลายบ่อ แต่จากการตรวจสอบแกะรอยเบื้องต้นก็ยังไม่พบแต่อย่างใด

พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระนวน สืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น และสืบสวนภาค 4 ลงพื้นที่มาหลายครั้งแล้ว จนแน่ใจในจุดที่คนร้ายลงมือสังหารนางสาวหนุ่ยคือที่ขนำ ที่คนภายนอกที่ใช้ขนำจุดนี้เป็นที่มั่วสุม นัดแนะกันในเรื่องการค้าขายยาเสพติด ส่วนคนร้ายน่าจะมี 1-3 คน ที่เชื่อว่าต้องรู้จักกับคนตาย ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าคนตายพัวพันกับยาเสพติดมานาน จนไม่กลับบ้านไปหาลูกและหลับนอนไม่เป็นที่ สาเหตุการถูกสังหารนั้นอาจเป็นได้ว่า คนตายเอายาเสพติดจากฝ่ายคนร้ายไปแล้วไม่จ่ายเงิน และล่วงรู้ความลับของคนร้าย ซึ่งคนร้ายเกรงว่าความลับจะถูกฝ่ายนางสาวหนุ่ยเปิดเผย จึงนัดมาเคลียร์กัน แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงลงมือฆ่าล้างหนี้และฆ่าตัดตอน เพื่อป้องกันความลับถูกเปิดเผย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพอมีเบาะแสของคนร้ายแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนขนำอีกจุดที่อยู่ตรงข้ามกันนั้น เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นรอยเลือดในขนำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และพบถุงปุ๋ยลักษณะเดียวกันกับที่พันร่างคนตาย จึงได้เก็บรวมรวบหาหลักฐานในจุดนี้เพิ่มเติมทั้งหมด เพื่อทำการตรวจหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาเบาะแสคนร้าย

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามชาวบ้านที่มาทำสวนยางทำไร่มันสำปะหลังใกล้ๆ จุดเกิดเหตุ และจุดที่พบศพ เกี่ยวกับข้อมูลที่มีพระสงฆ์ต้องสงสัยจะเกี่ยวข้องกับการตายของนางสาวหนุ่ย โดยได้พบกับ นายจำเนียร มาลาหอม อายุ 64 ปี กล่าวว่า ในบริเวณดังกล่าว ไม่มีพระสงฆ์นอกพื้นที่มาอยู่ มีเพียงพระสงฆ์ ที่มีชื่อเสียงด้านไสยศาสตร์ไล่ผีปอบและมนตร์ดำ มาอยู่ในวนยางพาราของญาติ 20 ปีแล้ว แต่ไม่เคยมีปัญหากับใคร ทราบเพียงว่าพระรูปนี้ชอบหนุ่มวัยรุ่น จึงไม่มีเรื่องผู้หญิง ส่วนการพบศพคนตายในไร่มันสำปะหลังนั้น ทราบเพียงว่าเจอศพผู้หญิงถูกเสื่อห่อร่างนำศพมาทิ้ง ได้ยินชาวบ้านพูดต่อๆ กันว่า ผู้ตายไปเอาของเขามา แล้วไม่จ่ายเงิน จึงถูกฆ่า ซึ่งในพื้นที่ที่พบศพนั้นมีพวกติดยาอยู่เยอะ ในส่วนของพระนั้นเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะพระชอบผู้ชาย ไม่ชอบผู้หญิง.