ผู้การสืบภาค 8 ระบุจับชาวคาซัคสถานคาสนามบินภูเก็ต ชัดว่าเป็นมือปืนยิงนักธุรกิจชาวรัสเซียเจ็บสาหัส ด้านผู้การภูเก็ต เผยเบื้องต้นดำเนินคดีข้อหาอยู่เกินวีซ่า ส่วนข้อหา “ฆ่า” กำลังหาหลักฐานเพิ่มเติม รวมทั้งปืนที่นำไปโยนทิ้งน้ำ เชื่อเป็นการล้างแค้นกันในแก๊ง ใช้ประเทศไทยเป็นที่ก่อเหตุ
เวลา 14.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวคาซัคสถานที่ก่อเหตุยิงนักธุรกิจชาวรัสเซียได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะขับรถเข้ามาจอดหน้าร้านอาหารภายในศูนย์การค้าโบ๊ทอเวนิว ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อบ่ายวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยควบคุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ขณะกำลังเตรียมขึ้นเครื่องบินหลบหนีไปยังประเทศรัสเซีย โดยได้คุมตัวไปสอบสวน ซึ่งให้ล่ามแปลภาษามาร่วมสอบสวนด้วย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุนำไปทิ้งไว้ในหนองน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 3-4 กม.ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ ชุดสืบสวนต้องสอบสวนก่อน แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะทำเป็นกลุ่มขบวนการที่ใช้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ก่อเหตุ ก่อนจะหลบหนี สำหรับการสืบสวนจนพบตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ ตำรวจได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิด จนพบผู้ต้องสงสัยนำเสื้อคลุมกันฝนไปทิ้ง และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปจอดไว้ในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จนเป็นที่มาของการขยายผลติดตามจับกุมตัว
ด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธ์ุ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เผยว่า หลังเกิดเหตุได้ออกสืบสวนสอบสวน เพื่อหาพยานหลักฐานต่างๆ โดยเน้นไปที่เส้นทางการหลบหนีทั้ง 3 เส้นทาง บก น้ำและอากาศ จากนั้นได้ปิดช่องทางทั้งหมดและเร่งสืบสวนหาข่าวอย่างเร่งด่วน จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องสงสัยคือ นาย Artur Legay ชายชาวคาซัคสถาน และพบผู้ต้องสงสัยที่สนามบินภูเก็ตในเวลาต่อมา จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ เบื้องต้นพบว่าอยู่เกินวีซ่า จึงดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวเป็นอันดับแรก ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องต่างๆ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนสาเหตุในการยิงผู้บาดเจ็บ อาจมาจากความขัดแย้งส่วนตัวและธุรกิจ ขณะที่ผู้บาดเจ็บอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
“เรากำลังค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนพยานหลักฐานต่างๆ ทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น รถ จยย.หมวกกันน็อก รองเท้า ถุงมือ เป็นต้น พฐ.ได้เก็บลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอไว้หมดแล้ว ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยนั้น เจ้าตัวไม่ค่อยให้การ รอเจ้าหน้าที่ของสถานทูตคาซัคสถานก่อนถึงจะมีการให้ปากคำ ส่วนผู้บาดเจ็บยังไม่มีการสอบปากคำ” ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตกล่าว
ล่าสุด ช่วงเที่ยงวันนี้ ระหว่างที่พิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบหาหลักบนรถ ATV ซึ่งเป็นรถนำเข้าที่ต้องสงสัยที่มาติดหล่มอยู่ใกล้หนองน้ำที่คนร้ายได้นำปืนมาทิ้ง รถคันดังกล่าวไม่สามารถวิ่งขับเคลื่อนได้เนื่องจากล้อหน้าและล้อหลังติดอยู่ในโคลนตม จู่ๆ ก็มีนายอีเรีย อายุ 21 ปี เดินเข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถ โดยนายอีเรีย ให้ข้อมูลพร้อมเปิดหลักฐานภาพนิ่งและคลิปวิดีโอให้ดูว่า ก่อนที่จะขี่รถเข้าไปติดหล่ม ตนเองนอนไม่หลับได้ขี่รถ ATV ไปซื้อของที่ร้านเบอร์เกอร์คิง ตรงโบ๊ท อเวนิว ในเวลา 02.06 น. พอซื้อเสร็จ ได้ขี่รถวนเข้าไปยังจุดดังกล่าว แต่ในขณะที่กำลังขี่รถออกมารถดันติดหล่ม ซึ่งตอนติดหล่มก็ได้ถ่ายคลิปถ่ายภาพเอาไว้ แล้วก็โทรให้เพื่อนมารับ ส่วนตอนเช้าไม่มาเอารถกลับ เป็นเพราะว่านอนหลับอยู่ในบ้านพัก ยืนยันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และไม่รู้จักผู้ก่อเหตุ
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/
