ตร.ภาค 5 แถลงทลายเครือข่ายค้าอาวุธสงคราม ส่งชนกลุ่มน้อยในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน รวบผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมยึดของกลางอาวุธสงครามจำนวนมาก – เงินสดอีก 2 ล้านบาท ขณะเดียวกัน เตรียมขยายผลแหล่งที่มาของอาวุธครั้งนี้เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี ยืนยันทั้งหมดไม่ใช่อาวุธสงครามของราชการไทย
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ เข้าจับกุมตัวนายไกรเพชร บูชาเลิศไกวัล อายุ 28 ปี และนายกีรติภพ โททำ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณจุดตรวจบนถนนคันคลองขาออก ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ หลังทำการตรวจค้นกล่องขนาดใหญ่ท้ายกระบะรถ พบอาวุธสงครามซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืนเล็กยาว ทรง AR ขนาด 5.56 มม. ไม่ปรากฏเลข/เครื่องหมายประจำปืน พร้อมซองกระสุนขนาด 5.56 มม. ขนาดบรรจุ 30 นัด จำนวน 10 ชุด และเครื่องยิงลูกระเบิด ความกว้างปากลำกล้อง 40 มม. จำนวน 14 กระบอก

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การสารภาพว่า รับจ้างขนอาวุธสงครามจากบริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า ย่านตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปส่งให้กับชนกลุ่มน้อย (กะเหรี่ยง KNU) บริเวณชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยรับสารภาพว่าลักลอบขนอาวุธเป็นครั้งที่ 3 แล้ว
หลังนำตัวไปสืบสวนขยายผล พบมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม 2 คนคือ นายสมศักดิ์ คำยอด อายุ 31 ปี ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งทำหน้าที่ส่งมอบอาวุธสงคราม และสกัดจับ นายเตชพล เพ็งเล็ง อายุ 35 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ได้บนถนนเลี่ยงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ขณะหลบหนี โดยยึดเงินสด 2 ล้านบาท พร้อมอาวุธปืนพกสั้น, เสื้อเกราะกันกระสุน, วิทยุสื่อสาร และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ซุกซ่อนในรถ

ทั้งนี้ พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า อาวุธสงครามที่จับได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธสงครามที่เตรียมนำไปส่งมอบให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ชายแดน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนำไปใช้ในการสู้รบในพื้นที่ประเทศเมียนมา โดยปืนเอ็ม 16 มีการนำเข้ามาจากฝั่งของไทยใหญ่ในประเทศเมียนมา แล้วเอามาประกอบในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ต้องหาจ้างขนเที่ยวละ 10,000 บาท เพื่อนำไปส่งให้กับผู้รับที่บริเวณชายแดน อำเภอแม่สามแลบ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ส่วนปืนเอ็ม 79 มีการจัดซื้อมาจากกรุงเทพมหานคร เชื่อว่ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านฝั่งตะวันออก ส่วนเอ็ม 16 นั้น เป็นลักษณะประกอบ เป็นกลุ่มไทใหญ่ ซึ่งอยู่ในภาคเหนือ ที่ทำการค้าอาวุธ โดยการฉวยโอกาสทำสินค้าออกขายในการสู้รบของประเทศเมียนมากับชนกลุ่มน้อย พวกนี้ก็ได้โอกาสให้การจัดหาอาวุธเพื่อนำไปส่งให้ชนกลุ่มน้อยกองพลน้อยที่ 5 กะเหรี่ยงเคเอ็นยู

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลหาเครือข่ายที่ร่วมขบวนการค้าอาวุธสงครามนี้มาดำเนินคดีต่อไปซึ่งเชื่อว่าจะมีอีกจำนวนมาก ซึ่งในกลุ่มนี้มี 6 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 4 ราย อีก 2 รายเป็นชาวไทใหญ่ ซึ่งกำลังหลบหนีอยู่ตำรวจทราบตัวหมดแล้ว
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ (อาวุธปืนและเครื่องยิงลูกระเบิด) โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ร่วมกันค้า หรือจำหน่ายอาวุธปืนฯ นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 55″
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/