ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 ม.ค.66 ปิดที่ 1,691.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 80,560.62 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 4,299.15 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTGC ปิด 50.25 บาท บวก 2.75 บาท, DELTA ปิด 832 บาท ลบ 10 บาท, IVL ปิด 41.25 บาท บวก 2.75 บาท, CPALL ปิด 71 บาท ลบ 2 บาท, KBANK ปิด 155.50 บาท บวก 1 บาท
บล.เอเซียพลัส เปิดรายชื่อกลุ่มหุ้นได้รับความสนใจสูงขึ้นในปีนี้ เทียบกับเดือน ธ.ค.65 พบ BANK มาแรงสุด 142% กลยุทธ์การลงทุนหุ้นช่วงนี้ แนะนำ Trading กลุ่มหุ้นที่ได้รับความสนใจปีนี้ โดยวัดจากมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในปีนี้ (ytd) เทียบกับค่าเฉลี่ยเดือน ธ.ค.65 พร้อมกับให้ผลตอบแทนเป็นบวก (ytd)ม
ได้ผลลัพธ์กลุ่มหุ้นที่ได้รับความสนใจ (%Chg.ValueYTD เทียบกับ ธ.ค.65) คือ กลุ่ม BANK (142%), ETRON (111%), PKG (75%), TOURISM (58%), COMM (51%), CONS (50%) เป็นต้น ทั้งนี้ หุ้นที่ได้รับความสนใจลงทุนเด่นขึ้นปีนี้ โดยมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย YTD สูงกว่าเดือน ธ.ค.65 กว่า 1 เท่าตัว ชอบ BBL, SCB, CBG, ERW, STEC เป็นต้น
แต่แม้ Fund Flow จะไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง ทำให้เงินบาทแข็งค่าเร็ว ตลาดหุ้นที่ขึ้นมาแรง หากดัชนีสูงเกิน 1,700 จุด Fund Flow เป็นเพียง ตัวช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ผันผวน ดังนั้นการเลือกหุ้นต้อง Selective มากขึ้น
ปิดท้าย “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลง 2.1% จากเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” นักลงทุนมองการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากสุด คือความขัดแย้งระหว่างประเทศ, การจัดเก็บภาษีขายหุ้น และสถานการณ์เงินเฟ้อ
ขณะที่คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังโตได้ มีปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวทำให้ไทยอยู่ในสายตาผู้ลงทุนและค่าเงินบาทปีนี้จะไม่อ่อนค่ามากเทียบกับปีก่อน เพราะราคาน้ำมันที่ลดลงและการท่องเที่ยวที่พลิกกลับมาจะช่วยหนุนให้ฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่องและเป็นบวกได้ทั้งปีนี้
ด้านสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน คาดดัชนีหุ้นไทยสิ้นไตรมาส 1/66 จะขึ้นไปอยู่ที่ 1,694 จุด ถือว่าใกล้เคียงกับระดับปัจจุบันแล้ว เพราะจีนเปิดเมืองเร็วกว่าที่คิดและปลายปี 66 คาดดัชนีจะขึ้นไปได้ถึง 1,740 จุด!!
อินเด็กซ์ 51