วายุภักษ์ จุดเปลี่ยนตลาดหุ้น เงินไหลเข้า 1.5 แสนล้าน ดันดัชนีทะลุ 1,300 จุด คาด 10 หุ้นได้ประโยชน์

จับตาบ่ายวันนี้ (13 ส.ค. 67) กระทรวงการคลัง นัดแถลงเดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ให้กับผู้ลงทุนทั่วไป สำหรับ “กองทุนรวมวายุภักษ์” เพื่อเพิ่มทางเลือกการออมและสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนรวมถึง 5 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินจากการเสนอขายให้ผู้ลงทุนทั่วไปอีก 1.5 แสนล้านบาท เข้ามาช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยให้ฟื้นตัวได้ พร้อมเปิดรายชื่อหุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายการเข้าลงทุน

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กระทรวงการคลัง กำหนดงานแถลงข่าวเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของ “กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง” ตามที่มีนโยบายให้มีการระดมทุนเพื่อเป็นกลไกเสริมสร้างการออมและการลงทุนให้กับประชาชนในประเทศและส่งเสริมสนับสนุน การพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ

เบื้องต้นกองทุนรวมวายุภักษ์ มีเม็ดเงินลงทุนสำหรับกระทรวงการคลังและหน่วยงานอื่น (หน่วยลงทุน ข.) อยู่จำนวน 3.5 แสนล้านบาท หากจำหน่ายกองทุนรวมวายุภักษ์ใหม่แก่ผู้ลงทุนทั่วไป (หน่วยลงทุน ก.) คาดมีวงเงินประมาณ 1.5 แสนล้านบาท จะทำให้รวมมีเงินลงทุน 2 กองนี้ราว 5 แสนล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/67 เตรียมเปิดลงทุนในเดือนตุลาคมนี้

ด้านฝ่ายวิจัยฯ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า กระทรวงการคลังนัดแถลงเสนอขายหน่วยลงทุน กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง หวังเป็นกลไกเสริมสร้างการออมและการลงทุนให้กับประชาชน คาดว่าน่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าระบบราว 1 แสนล้านบาท อาจเห็นแรงหนุนจากกองทุนวายุภักษ์มาช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยอีกแรง คาดตลาดหุ้นไทยค่อยๆ ฟื้นและยืนเหนือ 1,300 จุด หลังตอบรับปัจจัยลบทางการเมืองมานาน

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยฯ ทำการคัดกรองหุ้น 10 อันดับแรก ที่กองทุนวายุภักษ์ถือครองสูงสุด น่าจะได้รับ Sentiment เชิงบวกมากกว่าหุ้นอื่นๆ คือ PTT, SCB, TTB, BCP, KTB, AOT, ADVANC, GULF, SCC, BDMS

ขณะที่บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า สำหรับกองทุนวายุภักษ์ในอดีตที่ผ่านมา เป็นกองทุนที่รัฐบาลและประชาชนร่วมกันใส่เงินลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน ในอดีตที่ผ่านมากองทุนดังกล่าวทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 15% ต่อปี และนำผลตอบแทนมาจ่ายคืนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน

ทั้งนี้ รอติดตามรายละเอียดต่างๆ ที่รัฐบาลจะแถลง แต่เบื้องต้นมองเป็นบวกกับตลาดหุ้นไทย จากกระแสเงินทุนที่จะเข้ามาจากกองทุนวายุภักษ์ รวมถึงกองทุน TESG มองหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นมีระดับ Valuation โซนล่างจะเป็นเป้าหมายการเข้าลงทุน อาทิ AOT, BBL, CRC, CPALL, HMPRO และ KBANK

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/