ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 ม.ค.66 ปิด 1,681.04 จุด ลดลง 3.82 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 54,483.85 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 808.29 ล้านบาท
“มาร์โค สุจริตกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส 1 ประจำประเทศไทย เผยว่าได้ปรับมุมมองตลาดหุ้นไทยเป็น “เพิ่มน้ำหนักลงทุน” จากเดิม “คงน้ำหนักลงทุน” ผลจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลบวกต่อธุรกิจในประเทศและความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
โดยการเปิดประเทศของจีนเป็นปัจจัยเร่งสำคัญของการเป็น “ขาขึ้น” ของหุ้นไทย ทั้งนี้ปี 62 ไทยรับนักท่องเที่ยวจีน 11 ล้านคน คิดเป็น 29% ของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไทยทั้งหมดช่วงก่อนเกิดโควิด ส่วนปี 66 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทย 26 ล้านคน อยู่ในระดับ 65% ของปี 62 และสูงกว่าที่รัฐตั้งเป้าไว้ที่ 25 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 39,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ สูงขึ้นเป็น 2 เท่าจากปี 65 และคิดเป็น 6% ของจีดีพีไทย
ขณะที่ “จักรพันธ์ พรพรรณรัตน์” หัวหน้าสายงานวิจัย ของ บล.เจพีมอร์แกน (ประเทศไทย) ระบุว่า นอกจาก “ช้อปดีมีคืน” จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศระยะสั้นแล้ว การใช้จ่ายของต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทยจะกระตุ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งขณะนี้ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอย่างมาก
เจ.พี.มอร์แกนให้เป้าดัชนีหุ้นไทยปี 66 ไว้ที่ 1,800 จุด และปรับมุมมองให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นหมวดสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต สินค้าฟุ่มเฟือย และการดูแลรักษาสุขภาพ นอกจากนี้ หุ้นไทยยังมีปัจจัยหนุน ได้แก่ เงินเฟ้อที่ชะลอลงจากราคาพลังงานที่ลดลง และการขึ้นค่าจ้างที่ไม่สูงเกินไป ส่งให้กำไร บจ.ดีขึ้น
ขณะที่คาด กนง.จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง มาอยู่ที่ 1.75% ทำให้เงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว ซึ่งต้นทุนด้านราคาที่ต่ำลง ส่งผลบวกแก่ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจสาธารณูปโภค และการแข็งค่าของเงินบาทที่ได้แรงหนุนจากรายรับการท่องเที่ยวดีขึ้นและค่าขนส่งลดลง ช่วยให้ดุลบัญชีเดินสะพัดไทยเกินดุล โดยเงินบาทที่แข็งขึ้นจะเพิ่มผลตอบแทนให้นักลงทุนต่างชาติด้วย
ส่วนการเลือกตั้งที่คาดจะเกิดขึ้นเดือน พ.ค.นี้ เป็นแรงหนุนระยะสั้นแก่หุ้นไทย จากการวิเคราะห์ในอดีต ค่ากลางผลตอบแทนของหุ้นไทยช่วง 3 เดือนก่อนเลือกตั้ง 12 ครั้งที่ผ่านมา อยู่ที่ 5% โดยหุ้นหมวดอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน อาหารและเครื่องดื่ม และพาณิชย์มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้เหนือตลาด และผลบวกนี้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในระยะปานกลาง!!
อินเด็กซ์ 51