พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันประชุมหารือกำหนดแนวทางการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในกรณีการโกงหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทและจะเร่งพยายามติดตามทรัพย์สินที่เหลืออีกจำนวนมาก ส่วนมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ เบื้องต้น 35,000-50,000 ล้านบาท และมีความเป็นไปได้จะถึง 100,000 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาได้มีการเชิญพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายรายเข้าให้ปากคำในฐานะพยานบ้างแล้ว อาทิ กรรมการและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกรรมการชุดเก่าและชุดใหม่ใน 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด, บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, และบริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เบื้องต้นพบว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำบัญชี และมีส่วนเกี่ยวข้องในบทบาทของการตัดสินใจการเซ็นอนุมัติต่างๆ แต่ว่าบุคคลเหล่านี้จะรู้เห็นในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่นั้น จะต้องมีการสอบปากคำให้ครบถ้วนในทุกประเด็น และดูพยานหลักฐานเอกสารประกอบ หากได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว จากนั้นเราจะพิจารณาว่าผู้ที่กระทำผิดมีใครเกี่ยวข้องบ้าง หรือเกี่ยวข้องในระดับใด เพื่อออกหมายเรียกผู้ต้องหาต่อไปและตนได้เร่งให้คณะพนักงานสอบสวนทำเรื่องราวให้ชัดเจนภายในสองสัปดาห์หลังจากนี้”.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/