เตือนผู้ปกครอง เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส RSV พบระบาดสูงในช่วงฤดูฝน

เตือนผู้ปกครอง เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัส RSV พบระบาดสูงในช่วงฤดูฝน

“กรมควบคุมโรค” เตือนผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเด็กเล็ก เฝ้าระวัง-สังเกตอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ จากโรคติดเชื้อไวรัส RSV เสี่ยงป่วยง่าย พบการระบาดสูงในช่วงฤดูฝน

วันที่ 26 มิ.ย. 2567 นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนมักพบการระบาดของกลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนใหญ่ เช่น โรคโควิด-19, ไข้หวัดใหญ่, ปอดอักเสบ และโรคติดเชื้อไวรัส RSV ซึ่งไวรัส RSV มักพบการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กเล็กเป็นหลัก

จากข้อมูลการเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อก่อโรคไข้หวัดใหญ่และโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในประเทศไทยเฉพาะพื้นที่ (Sentinel Surveillance) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564-8 มิถุนายน 2567 โดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส RSV 1,226 ราย จากผู้ป่วยทางเดินหายใจ 19,179 ราย (ร้อยละ 6.39) อายุระหว่าง 9 วัน-87 ปี (อายุเฉลี่ย 2 ปี) โดยตรวจพบมากที่สุดในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี 573 ราย (ร้อยละ 46.74) รองลงมา คือ อายุ 2-5 ปี 472 ราย (ร้อยละ 38.50) และอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป 181 ราย (ร้อยละ 14.76) มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตาย ร้อยละ 0.24 อายุต่ำสุด 1 ปี 8 เดือน และสูงสุด 86 ปี ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป พบติดเชื้อ RSV 28 ราย (ร้อยละ 2.28)  ทั้งนี้ จำแนกเป็นผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง 20 ราย (ร้อยละ 71.4) 

สำหรับข้อมูลจากการเฝ้าระวังโรคฯ ของกองระบาดวิทยา พบว่าเชื้อ RSV มักจะเป็นสาเหตุของการเกิดปอดอักเสบรุนแรงในเด็กและผู้สูงอายุ หากดูลักษณะทางระบาดวิทยาในช่วงปีที่ผ่านๆ มา จะพบโรคติดเชื้อไวรัส RSV ได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่

นอกจากนี้ อาการและการติดต่อมีความคล้ายกัน จึงคาดว่าจะเริ่มมีรายงานผู้ป่วยเพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงระยะนี้เป็นต้นไป ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วนั้น เนื่องจากไวรัสจะมีชีวิตอยู่ภายนอกร่างกายได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยอาศัยอยู่ตามวัตถุต่างๆ และเชื้อยังแพร่กระจายได้ง่ายผ่านการไอ หรือการจาม เช่นเดียวกับโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค เน้นย้ำให้ประชาชนหรือผู้ปกครองเตรียมพร้อมเฝ้าระวังและใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 โดยการสร้างความตระหนัก แนวทางการป้องกันสำหรับประชาชนทั่วไป ดังนี้

  1. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ
  2. เลี่ยงการนำมือที่ไม่สะอาดมาสัมผัสจมูก ปาก หรือตา
  3. ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม
  4. หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังพบเด็กป่วย
  5. เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย

  1. หยุดพักรักษาที่บ้าน และสวมหน้ากากอนามัย หมั่นทำความสะอาดบ้านเพื่อลดเชื้อ
  2. ดื่มน้ำมากๆ เนื่องจากน้ำจะช่วยทำให้สารคัดหลั่งไม่เหนียวจนเกินไป
  3. หากผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น เช่น หอบเหนื่อย ซึมลง รับประทานอาหารได้น้อย ควรรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,444 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed