จัดแบบยิ่งใหญ่ สมดั่งเมือง 4 แสง “งานประเพณีแห่เทียนอุบลฯ” 2 วัน 2 คืน
ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี แถลงจัดงาน “เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เมืองเทียน เมืองธรรม งามล้ำเมือง 4 แสง” เต็มอิ่ม 2 วัน 2 คืน โดย 1-18 ก.ค. ชวนนักท่องเที่ยวมาร่วม เยือนชุมชน ชมวิถี คนทำเทียนตามคุ้มวัดต่างๆ ขณะที่ 19 ก.ค. เป็นวันโฮมเทียนที่รวมต้นเทียนจาก 25 อำเภอ มาไว้ที่ทุ่งศรีเมืองก่อนจะตั้งขบวนแห่
เวลา 17.00 น. วันที่ 3 ก.ค. 67 ที่บริเวณลานเทียนเฉลิมพระเกียรติฯ ทุ่งศรีเมือง เทศบาลนครอุบลราชธานี นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดการแถลงข่าวการจัดงานประเพณีเทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2567 พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม ภายใต้ชื่องาน “เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เมืองเทียน เมืองธรรม งามล้ำเมือง 4 แสง” ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 123 ซึ่งเป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567
ทั้งนี้ ชาวอุบลราชธานี ทุกภาคส่วนได้เตรียมการจัดกิจกรรม และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ที่จะเข้ามาร่วมงานประเพณียิ่งใหญ่นี้ โดยเริ่มต้นเดือนกรกฎาคม ด้วยกิจกรรมเยือนชุมชน ชมวิถี คนทำเทียน และการประดับต้นเทียน ตามคุ้มวัดต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด ทุกท่านสามารถร่วมในการทำเทียนพรรษากับชาวอุบลราชธานี ได้ตั้งแต่วันที่ 1-18 ก.ค. 67ชมงานแสงศิลป์แห่งศรัทธา เนรมิตเมืองอุบลราชธานีให้เต็มไปด้วยแสง สี ศิสป์ สุดวิจิตรตระการตา รวม 15 จุดทั่วเมืองอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 13-21 ก.ค. 67 รวมทั้งการจำหน่ายสินค้าเศรษฐกิจชุมชน ณ ลานวัฒนธรรมข้างศาลหลักเมืองอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 17-23 ก.ค. 67
ในวันที่ 19 ก.ค. ก็จะเป็นวันรวมต้นเทียน หรือ วันโฮมเทียน ซึ่งจะมีต้นเทียนพรรษาที่ชาวอุบลฯ ร่วมกันรังสรรค์ด้วยความสามัคคีขอคนในชุมชนต่างๆ ทั้ง 25 อำเภอ ส่งเข้าประกวดทั้ง 3 ประเภท คือ ประเภทแกะสลัก ประเภทติดพิมพ์ และประเภทเทียนโบราณแบบดั้งเดิม รวมกว่า 49 ต้นที่สำคัญไปกว่านั้น ปีนี้จังหวัดอุบลราชชานี จัดให้มีการปล่อยแห่ขบวนเทียนพรรษา ขบวนฟ้อนของนางรำ และการแสดงแสง เสียงประกอบขบวนแห่ ถึง 2 วัน 2 คืน ในวันที่ 20-21 ก.ค. 67 โดยแต่ละวันจะมีขบวนต้นเทียนทั้ง 49 ตัน และขบวนฟ้อนรำจากชุมชน คุ้มวัด สถานศึกษา มหาวิทยาลัยและโรงเรียนในจังหวัด วันละ 26 ขบวน ซึ่งแต่ละขบวนจะมีสีสัน ท่ารำที่หลากหลายแตกต่างกันไป ซึ่งในภาคค่ำจะมีการแสดงแสง เสียงให้ได้ชมกันอย่างเต็มอิ่มถึง 2 คืน จึงขอเชิญทุกท่านได้ร่วมสร้างประสบการณ์ร่วมกับศิลปวัฒนธรรมและของดี จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมต้อนรับ นักท่องเที่ยว โดยมีระบบบริหารจัดการด้านต่างๆ ทั้งการเดินทาง ที่พักและบริการอื่นๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มศักยภาพ ให้เกิดประทับใจสูงสุด
ขณะที่ เรื่องที่พัก และโรงแรมในจังหวัดอุบลราชธานีมีทั้งหมด 230 แห่ง รวมราว 6,500 ห้อง ทางหอการค้าฯ คาดว่าในวันที่ 20 ก.ค.นี้ มีการจองมาประมาณ 80% ยังมีพื้นที่บางส่วนที่ยังว่างอยู่ สำหรับมูลค่าทางเศรษฐกิจของปีนี้คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะประมาณ 1,000 ล้านบาท.
ที่มา:ไทยรัฐ
EKCbQTnG