21-59 อดใจรอนิด ได้แน่เงินหมื่น เฟส 3-สั่งปลดล็อกกลุ่มสินค้าต้องห้าม บังคับใช้ผ่านแอปฯ ทางรัฐ

21-59 อดใจรอนิด ได้แน่เงินหมื่น เฟส 3-สั่งปลดล็อกกลุ่มสินค้าต้องห้าม บังคับใช้ผ่านแอปฯ ทางรัฐ

“แพทองธาร” นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 3 ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านแอปฯทางรัฐเป็นครั้งแรก ให้กลุ่มคนอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน รวมเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้

ด้าน “จุลพันธ์” เผยเงื่อนไขใหม่ ตัดรายการสินค้าต้องห้ามออกทั้งหมด เข้าร้านโชห่วยซื้อสินค้าได้ทุกประเภท รวมถึงจ่ายค่าเทอม ค่าน้ำประปาได้ด้วย พร้อมเปิดให้ร้านที่ไม่อยู่ในระบบภาษีขึ้นเงินสดได้ แต่ต้องทำตามเงื่อนไข ขณะที่ “เผ่าภูมิ” เตรียมให้ 4 แบงก์รัฐ ไปรษณีย์ และ อปท. รับลงทะเบียนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ยืนยันกลุ่มอายุ 21-59 ปี ยังมีลุ้นได้รับเงินหมื่น เพราะรัฐบาลยังมีเงินเหลือสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 1.2 แสนล้านบาท

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 10 มี.ค. เวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม นายกฯ กล่าวก่อนประชุมว่า 1 ปีที่ผ่านมาการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแนวโน้มดีขึ้น กระทรวงการคลังประมาณการว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะเติบโต 3 เปอร์เซ็นต์ แต่รัฐบาลเชื่อว่าด้วยศักยภาพเศรษฐกิจไทยและความตั้งใจทำงานของทุกกระทรวงร่วมกับเอกชน จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตมากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ได้

ต่อมาเวลา 11.20 น. น.ส.แพทองธารทวีตข้อความ ผ่านแอปพลิเคชันเอ็กซ์ว่า ด้วยความร่วมมือทุกภาคส่วน ศักยภาพเศรษฐกิจไทยปี 2568 น่าจะเติบโตมากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ที่ประชุมได้เสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่ 3 เป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง กลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ อายุ 16-20 ปี ต้องใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ สแกน QR code ณ ร้านค้า ในพื้นที่เขต หรืออำเภอที่อยู่ตามทะเบียนบ้านได้เน้นย้ำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเครื่องยนต์ สำคัญ การท่องเที่ยวต้องดำเนินต่อตามแผนงานและมีแผนงานใหม่ที่มุ่งไปยังกลุ่ม luxury เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อหัวมากขึ้น อีกเรื่องที่สำคัญคือ กลุ่มการเกษตร ต้องพัฒนาทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การส่งออกสินค้าเกษตร ดูแลราคาสินค้าเกษตรให้เป็นธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ทำให้รายได้ประเทศสูงขึ้น

จากนั้นนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่าที่ประชุมเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ที่แจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเป็นครั้งแรก คนละ 10,000 บาท สำหรับผู้มีอายุ 16-20 ปี รวม 2.7 ล้านคน วงเงิน 27,000 ล้านบาท คาดว่าจะจ่ายเงินถึงมือได้ในปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ประมาณเดือน มิ.ย.-ก.ค. รัฐบาลเห็นว่าคนกลุ่มนี้มีความเหมาะสม เพราะอยู่ในวัยเรียน สามารถนำไปใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นต่อการเรียน หรือช่วยเหลือพ่อแม่ได้ ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี รัฐบาลจะดูความเหมาะสมช่วงเวลาอีกครั้ง ส่วนความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในเฟส 3 นั้น จะช่วยกระจายเงินลงพื้นที่ บรรเทาภาวะหนี้ครัวเรือนได้ด้วย มีประโยชน์ในเชิงคุ้มค่ามากกว่า นายกฯมอบหมายให้ติดตามโครงการอย่างใกล้ชิด นำความผิดพลาดจากเฟสที่ผ่านมาเป็นตัวอย่าง กระทรวงการคลังจะตั้งคณะอนุกรรมการมากำกับดูแลต่อไป จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เร็วๆนี้

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้ตัดเงื่อนไขเดิม 2 ส่วนคือ 1.ตัดรายการสินค้าต้องห้ามออกทั้งหมด ให้ไปกำกับลักษณะร้านค้าที่ไม่ให้เข้าร่วม เช่น ร้านทอง ร้านขายเหล้าโดยเฉพาะ แต่ไม่ได้ห้ามตัวสินค้า เช่น ร้านโชห่วยที่มีสินค้าหลากหลาย สามารถซื้อได้ทุกประเภท และให้ใช้จ่ายค่าเทอม ค่าประปาได้ด้วย 2.เปิดให้ร้านค้าทุกประเภทถอนเงินสดออกมาได้ ไม่จำกัดเฉพาะร้านที่อยู่ในระบบเสียภาษี เพื่อให้เกิดความสะดวกของร้านค้า และเชิญร้านค้าเข้าร่วมโครงการมากขึ้น แต่ยังใช้เกณฑ์ร้านค้าที่อยู่ในอำเภอตามทะเบียนบ้าน และการขึ้นเงินสดต้องเป็นการใช้เงินรอบที่ 2 และใช้ชำระค่าน้ำประปา ค่าเทอมได้ ส่วนคนอายุ 21-59 ปี จะได้รับเงินหมื่นทุกคนแน่นอน เพราะเม็ดเงินที่รัฐบาลกันไว้กระตุ้นเศรษฐกิจ 150,000 ล้านบาท เตรียมไว้สำหรับทำโครงการเงินหมื่นในเฟสถัดไป กลุ่มถัดไปไม่ต้องใช้ระยะเวลานาน เงินก้อนนี้ต้องใช้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ เชื่อมั่นว่าไม่ใช่เพียงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นการวางโครงสร้างรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต

ขณะที่นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า การเลือกแจกเงินหมื่นให้คนอายุ 16-20 ปีก่อน เพราะคนกลุ่มนี้มีความตื่นรู้ด้านเทคโนโลยีสูง มีความสามารถใช้จ่ายสูงกว่ากลุ่มอื่น จึงเลือกเป็นกลุ่มแรก นอกจากนี้ รัฐบาลเตรียมเปิดการลงทะเบียนของกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม รวมทั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และไปรษณีย์ไทย จะเปิดให้ลงทะเบียนในวงกว้างเพื่อให้รัฐบาลมีฐานข้อมูลกลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน เพื่อวางแผนการช่วยเหลือต่างๆได้ถูกต้อง ระยะเวลาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

นายเผ่าภูมิกล่าวอีกว่า การแจกเงิน 10,000 บาท สำหรับกลุ่มอายุ 16-20 ปี ที่ลงทะเบียนแอปพลิเคชันทางรัฐครั้งนี้ จะเป็นการใช้ดิจิทัลวอลเล็ตครั้งแรก โดยกลุ่มลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐ 2.7 ล้านคน ใช้เงิน 27,000 ล้านบาท ทำให้ยังเหลือวงเงินที่จะใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 120,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงินที่รัฐบาลได้เตรียมไว้ 150,000 ล้านบาท ส่วนจะแจกเงิน 10,000 บาทเมื่อใด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเศรษฐกิจ ขณะนี้รัฐบาลมองว่าในช่วงปลายไตรมาสสอง จะเริ่มนอกฤดูกาลท่องเที่ยว การนำเงินเข้าสู่ระบบอีกเกือบ 30,000 ล้านบาทน่าจะเพียงพอ และหลังจากนั้นจะเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้เหลือจำนวนผู้ลงทะเบียนแอปฯทางรัฐที่ยังได้สิทธิอีก 20 ล้านคน ต้องมีการตรวจสอบคัดกรองต่อไป

ทั้งนี้ รมช.คลังยืนยันว่าครั้งนี้จะเป็นการใช้จ่ายผ่านระบบดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบครั้งแรก โดยมีการกำหนดเงื่อนไขให้ใช้จ่ายในเขตอำเภอตามที่อยู่ทะเบียนบ้าน และมีการกำหนดร้านค้าที่สามารถ ใช้จ่ายได้ ต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก และมีการจำกัดร้านค้าที่เข้าร่วม อาทิ ร้านจำหน่ายสุรา ร้านจำหน่ายบุหรี่ สถานีบริการน้ำมัน เข้าร่วมโครงการแทนการทำรายชื่อสินค้าห้ามจำหน่าย สำหรับกลุ่มที่เหลือคือตั้งแต่อายุ 21-59 ปี ยืนยันว่าจะมีการแจกเงิน 10,000 บาทแน่นอน แต่อยู่ในกระบวนการพิจารณาในระยะต่อไป หากตัดกลุ่มที่มีการโอนเงินไปตั้งแต่เฟส 1 และ 2 แล้ว จะเหลือผู้ที่ลงทะเบียนในแอปฯ ทางรัฐอีกราว 20 ล้านคน จะต้องมีการคัดกรองอีกครั้งว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิเท่าไหร่ ส่วนงบประมาณโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น มีอยู่อีก 120,000 ล้านบาท ที่จะต้องมีการใช้งบประมาณภายในปีงบฯ 2568 หรือภายในเดือน ก.ย.2568

ขณะที่ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลประกาศแจกเงิน หมื่นในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ให้กับผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี ว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 จะเปลี่ยนระบบจากเงินสดมาเป็นออนไลน์ จึงต้องทดสอบระบบ เริ่มจากผู้มีอายุ 16-20 ปี เป็นการทดลองทดสอบระบบว่าระบบใหม่มีอะไรติดขัดหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทะเบียนจะได้รับเงินทุกคน โดยนำร่องให้คนที่มีความพร้อมทางเทคโนโลยี เรียนรู้ได้เร็วเป็นผู้ทดลองก่อน หากกลุ่มนี้ใช้งานได้จะช่วยเสริมให้กลุ่มอื่นใช้งานระบบนี้ได้ ดีกว่าใช้พร้อมกันหมด หากมีปัญหาข้อใดติดขัดจะได้ปรับแก้ก่อนใช้งานกับกลุ่มใหญ่สุด ยืนยันจะแจกให้ทุกกลุ่ม ส่วนที่ฝ่ายค้านโจมตีความไม่คุ้มค่า เป็นสิทธิฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตได้ แต่รัฐบาลมีเหตุผลชี้แจงทุกประเด็น

ที่มา ไทยรัฐ

ผู้นำเสนอข่าว

yoko

Written by:

3,942 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *