“เพิ่มพูน” ขอทุกฝ่ายร่วมปฏิวัติการศึกษา ชี้ปี 68 มีงบฯพัฒนาคุณภาพผู้เรียนแค่ 11.14%

“เพิ่มพูน” ขอทุกฝ่ายร่วมปฏิวัติการศึกษา ชี้ปี 68 มีงบฯพัฒนาคุณภาพผู้เรียนแค่ 11.14%

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2567 พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวชี้แจงคำของบประมาณฯในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่อาคารรัฐสภา ว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ฝั่ง คือ การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศและการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต ซึ่งเป้าหมายหลักในการจะมีความสุขได้ก็คือการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง ความท้าทายสำคัญของการศึกษาที่เราทำอยู่คือเรื่องการศึกษาของเด็กปฐมวัย ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในการขับเคลื่อน ซึ่งมีการปรับรูปแบบให้หน่วยงานที่ขับเคลื่อนหลักเป็น ศธ. โดยให้ศึกษาธิการจังหวัดเป็นเลขานุการคณะทำงานในการขับเคลื่อนทุกจังหวัด

ดังนั้น งบประมาณจึงต้องมาอยู่ใน ศธ.ด้วย สำหรับเรื่องเด็กหลุดออกนอกระบบการศึกษาและกลุ่มเด็กเปราะบาง ศธ.จะทำงานร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อสแกนหาเด็กกลุ่มต่างๆที่หลุดจากระบบนำเขากลับเข้ามาในระบบให้ได้ ขณะที่ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานั้น เราจำเป็นต้องมาหาวิธีลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งกลไกหลักที่จะมาตอบรับคือ การศึกษา Anywhere Anytime และการสอบเทียบต่างๆจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณ

รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ภาพรวมงบประมาณของ ศธ. ย้อนหลัง 6 ปี (2563-2568) จะเห็นได้ว่าปี 2563 งบประมาณจะได้สูง จากนั้นแนวโน้มได้ลดต่ำลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2567 จึงได้รับการพิจารณางบประมาณสูงขึ้น และในคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 รัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษา มีการปรับงบประมาณเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามหากเทียบระหว่างปี 2568 กับปี 2563 ปี 2568 งบฯก็ยังคงลดลงคิดเป็นร้อยละ 6.11

ขณะที่โครงสร้างงบประมาณปี 2568 จำนวน 340,584 ล้านบาท มีงบฯในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเพียง 11.14% จากที่ได้รับการจัดสรร ศธ.จึงขอความกรุณาสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน ช่วยลงความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และขอฝากผ่านไปยังผู้เกี่ยวข้องทางการศึกษาว่า ปัญหาการศึกษาของประเทศไทยนั้นไม่ใช่เรื่องเฉพาะของ ศธ.เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาและปฏิวัติการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,713 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed