เชียงใหม่ ฝุ่น PM 2.5 หนาแน่น ฝนตกไม่ช่วยอะไร ดอยสุเทพยังไม่กลับมา

เชียงใหม่ ฝุ่น PM 2.5 หนาแน่น ฝนตกไม่ช่วยอะไร ดอยสุเทพยังไม่กลับมา

เชียงใหม่ฝนตกแล้ว แต่หมอกควันกลับมาวิกฤติอีก ทัศนวิสัยไม่ดีขึ้น ดอยสุเทพยังหายไป ติงผู้ว่าอินโฟฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อย่าเพิ่งรีบเคลมผลงานหลังฝนตกแค่ 1 วัน ช่วยเพียงบรรเทาสถานการณ์หมอกควัน

วันที่ 14 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.เชียงใหม่ หลายพื้นที่ คุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์สีส้ม ท้องฟ้ายังไม่แจ่มใส ยังมีหมอกควันสีขาวปกคลุม ขณะที่ดอยสุเทพยังไม่กลับคืนมา เช้านี้ยังมีหมอกควันสีขาวบดบังจนหายไปจากทัศนวิสัยเมืองเชียงใหม่ และยังติด Top 10 ของโลกเมืองมลพิษทางอากาศเช้านี้อยู่อันดับที่ 7

ขณะที่เมื่อวานนี้ “ผู้ว่าอินโฟฯ” นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงโพสต์ภาพอินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์การทำงานออกมาอย่างต่อเนื่อง มีอยู่ 2 ภาพที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาวิกฤติหมอกควันของเชียงใหม่ หลังจากที่เดินทางกลับมาจากดูงานต่างประเทศก็กลับมาทำงานในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ต่อ โดยภาพแรกเป็นเรื่องที่โพสต์ว่าเชียงใหม่ วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ไม่มีจุดความร้อนจากการเผา หรือไฟป่าในพื้นที่ ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ฝนตก มีพายุฤดูร้อน และพายุลูกเห็บหลายพื้นที่ของเชียงใหม่ อีกภาพเป็นอินโฟกราฟิก ที่บอกว่า “ดอยหลวงเชียงดาวสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแล้ว ไม่มีสถานการณ์จุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่สภาพอาภาศเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ” ซึ่งมีหลายคนบอกว่าอย่าเพิ่งรีบเคลมผลงานเป็นของตัวเอง เนื่องจากฝนและลมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ได้มาจากผลงานการบริหารจัดการที่ประสบผลสำเร็จ อีกทั้งฝนและลมก็ผ่านไปแล้ว คุณภาพอากาศแม้จะดีขึ้น เป็นเพียงค่าฝุ่นควันลดลง แต่หลายพื้นที่ยังอยู่ในเกณฑ์สีเหลือง และสีส้มที่ยังส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ส่วนเรื่องงภาพดอยหลวงเชียงดาว ที่กลับมาจากอากาศแจ่มใส มีหลายคนเห็นแย้งว่าไม่น่าจะเป็นจริง เพราะยังมีหมอกควันมีขาวปกคลุมทั่วพื้นที่

โดยเฉพาะตัวเมืองเชียงใหม่เช้านี้ยังมีหมอกควันปกคลุมต่อเนื่อง แสงแดดจากดวงอาทิตย์ยังถูกบดบังจากหมอกควันที่ปกคลุม จนส่องแสงลอดมาถึงพื้นดินได้ไม่มาก ส่วนดอยสุเทพดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศของเชียงใหม่ พบว่าถูกหมอกควันสีขาวปกคลุมจนมองไม่เห็นดอยสุเทพจากตัวเมืองเชียงใหม่เลย หลายคนจึงเตือนว่าเร็วไปที่จะพูดว่าสถานการณ์หมอกควันของเชียงใหม่คลี่คลายลงแล้ว เชื่อว่าลมฝนที่ผ่านมาเพียงช่วยบรรเทาเท่านั้น แต่ก็ยังดีที่ทำให้ชาวเชียงใหม่ได้มีอากาศที่ดีขึ้น เพื่อต่อลมหายใจ

สำหรับเช้านี้ เวลา 09.00 น.วันที่ 14 มี.ค. 66 พบว่า ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ศูนย์ราชการตำบลช้างเผือกวัดได้ 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 114 AQI ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 46 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 84 AQI ที่ ดอยสุเทพ วัดได้ 46 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 84 AQI ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ ค่า PM 2.5 วัดได้ 30 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 35 AQI ขณะที่ ต.หางดง อ.ฮอด สูงสุดของเชียงใหม่ 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 149 AQI

ขณะที่ เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 08.00 น. จังหวัดเชียงใหม่ยังติด 10 อันดับแรกของโลกเมืองแห่งมลพิษทางอากาศ อยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 157 US AQI ส่วนอันดับ 1 เป็นของเมืองเดลี ประเทศอินเดีย 229 US AQI

ผู้นำเสนอข่าว

Lemon

Written by:

720 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *